การตอบโต้ความเป็นชายขอบ: การกลายเป็นเน็ตไอดอลของคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ)

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการกลายเป็นเน็ตไอดอลของคนชายขอบที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) เป็นการวิจัยแบบเชิงคุณภาพ มีเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง มีกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ เน็ตไอดอลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) จำนวน 5 คน และผู้ติดตามเน็ตไอดอล (Follower) จำนวน 5 คน ที่มาจากการเลือกแบบเจาะจง แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเครื่องมือการวิจัยมาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า การกลายเป็นเน็ตไอดอลของคนชายขอบที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ประกอบด้วย 1) การทำให้ LGBTQ เป็นคนชายขอบเกิดจาก 1.1) กฏ ระเบียบ ข้อบังคับที่เป็นบรรทัดฐานในสถาบันหรือองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน 1.2) กฏหมายหรือนโยบายที่คุ้มครองหรือปกป้องสิทธิของคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ยังไม่ชัดเจนและขาดเสถียรภาพ 1.3) วาทกรรมที่ประกอบสร้างอัตลักษณ์ความเป็นชายขอบ เมื่อวาทกรรมหลักของสังคมได้กำหนดให้โครงสร้างอัตลักษณ์ทางเพศให้มีเพียงอัตลักษณ์ชายและหญิง อัตลักษณ์ทางเพศ ที่นอกเหนือจากชายและหญิงจึงกลายเป็นความแปลกแยกแตกต่าง 1.4) การผลิตซ้ำทางวาทกรรมที่เป็นการตอกย้ำความเป็นชายขอบผ่านการแปะป้าย(label) และจัดประเภท (Categorize) 1.5) การทำให้เรื่องเพศเป็นเรื่องส่วนตัวจากสถานะภาพทางสังคมที่มองว่า LGBTQ นั้น มีความแปลกแยก แตกต่าง การเปิดเผยความเป็นตัวตนจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยได้ และประเด็นที่ 2) การกลายเป็นเน็ตไอดอลของคนชายขอบ LGBTQ เกิดจาก 2.1)  การประกอบสร้างอัตลักษณ์ใหม่ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ด้วยการใช้ทรัพยากรทางวัฒนธรรมเป็นสัญลักษณ์ 2.2) การสร้างผลงานไอเดียสร้างสรรค์ที่สะท้อนตัวตนและอัตลักษณ์ร่วม 2.3) การต่อรองต่อกระบวนการเป็นชายขอบผ่านการแสดงศักยภาพและงานที่มีคุณภาพ 2.4) การสร้างพื้นที่ทางสังคมผ่านการใช้พื้นที่สื่อสัมคมออนไลน์ 2.5) การบริโภคและใช้สื่อสังคมออนไลน์ประเภทต่างๆที่มีจุดเด่นหรือมีความน่าสนใจต่างกันเพื่อทางเลือกสำหรับผู้บริโภค 2.6) การรักษาและพัฒนาคุณลักษณะในตนเองเพื่อเป็นการเพิ่มและรักษาความนิยมของตนเองเอาไว้อย่างต่อเนื่อง