วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo <p><strong>วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์<br /></strong> วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เป็นวารสารวิชาการที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัยครอบคลุมศาสตร์ต่างๆ ทางสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ บัญชี บริหารธุรกิจ การจัดการ บริหารทรัพยากรมนุษย์ การเงินการธนาคาร การตลาด คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม สื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหวิทยาการจัดการ โดยครอบคลุมสาขาวิชาหลัก (Main subject category) และสาขาวิชาย่อย (Subject areas) ตามขอบเขตของวารสารฯ ดังนี้<br /> สาขาวิชาหลัก: Social Sciences<br /> สาขาวิชาย่อย: 1. Business, Management and Accounting <br /> 1.1 General Business, Management and Accounting<br /> 1.2 Management Information Systems <br /> 1.3 Marketing<br /> 1.4 Organizational Behavior and Human Resource Management<br /> 1.5 Tourism, Leisure and Hospitality Management<br /> สาขาวิชาย่อย: 2. Economics, Econometrics, and Finance<br /> 2.1 General Economics, Econometrics, and Finance<br /> สาขาวิชาย่อย: 3. Social Sciences<br /> 3.1 General Social Sciences<br /> 3.2 Education<br /> 3.3 Law<br /> 3.4 Linguistics and Language<br /> 3.5 Sociology and Political Science<br /> 3.6 Communication<br /> 3.7 Public Administration<br /> ทั้งนี้สามารถนำเสนอได้ในรูปแบบบทความวิจัย และบทความวิชาการ เท่านั้น</p> <p><strong>การประเมินบทความ</strong><br /> แต่ละบทความจะถูกประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) จากหลากหลายสถาบันอย่างน้อย 3 คน โดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่งจะไม่ทราบชื่อซึ่งกันและกัน (Double Blinded) </p> <p><strong><em>Time to first decision: 2 Week</em></strong><br /><strong><em>Review time: 6-8 Week<br /></em></strong><strong><em>Acceptance to publication: 4-26 Week</em></strong></p> <p><strong>กำหนดการตีพิมพ์เผยแพร่</strong><br />การตีพิมพ์วารสารฯ จะมีการตีพิมพ์ปีละ 2 ฉบับ คือ<br /> 1. ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน<br /> 2. ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม</p> <p>-------------------------------------------------------------------------------------------------<strong><br /></strong><strong>วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์</strong><br />ISSN 2651-124X (Print) <br />ISSN 2985-0444 (Online)<br /><strong>จำนวนฉบับ</strong> : ปีละ 2 ฉบับ (มกราคม - มิถุนายน และ กรกฏาคม - ธันวาคม)<br /><strong>ภาษา</strong> : ไทย,อังกฤษ<br /><strong>ค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์</strong> : จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับบทความที่ได้รับการเผยแพร่ในปีที่ 8 ฉบับที่ 1 (2567) เป็นต้นไปในอัตราดังนี้<br /> - บุคคลภายนอกเก็บค่าธรรมเนียมบทความละ 3,500 บาท (อาจารย์/นักวิจัย/นักวิชาการ/นักศึกษา ของสถาบันอื่น)<br /> - บุคคลภายในเก็บค่าธรรมเนียมบทความละ 3,000 บาท (อาจารย์/นักวิจัย/นักวิชาการ/นักศึกษา ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์)<br /> - กรณีบุคคลภายในที่มีชื่อเป็นผู้ร่วมผลงานกับบุคคลภายนอก ให้ชำระค่าธรรมเนียมบทความในอัตราเดียวกับบุคคลภายนอก บทความละ 3,500 บาท</p> th-TH <p>ลิขสิทธิ์&nbsp; ในการตีพิมพ์บทความ</p> <p>&nbsp;</p> <p>จะโชว์ตอนที่ ผู้ส่งบทความ ตีพิมพ์ ต้องกด accept</p> pronprun.sk@bru.ac.th (รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา ปาโนรัมย์) pronprun.sk@bru.ac.th (คุณพรพรรณ แสงแก้ว) Mon, 23 Dec 2024 16:57:31 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 แนวทางการพัฒนาการจัดประชุมของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/268797 <p>บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดประชุมของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ราชภัฏบุรีรัมย์ และเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาการจัดประชุมของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยจำแนกตามเพศ และประสบการณ์การทำงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 392 คน แบ่งเป็นบุคลากรสายวิชาการ จำนวน 201 คน และบุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 191 คน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามแบบ และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง ผลการศึกษา พบว่า แนวทางการพัฒนา การจัดประชุมของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ด้านการดำเนินการประชุม ด้านการวางแผนการประชุม และด้านการสรุปและการติดตามผลการประชุม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก สำหรับเพศและประสบการณ์การทำงานภายในมหาวิทยาลัยที่แตกต่างกัน ส่งผลให้แนวทางการพัฒนาการจัดประชุมของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน และข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ ในแต่ละด้านมีดังนี้ ด้านการวางแผนการประชุม มีการวางแผนการประชุมเพื่อให้เตรียมข้อมูลที่จะนำมาเสนอต่อที่ประชุมให้ตรงประเด็นและถูกต้อง ด้านการดำเนินการประชุม มีการชี้แจงบทบาทหน้าที่และวัตถุประสงค์การประชุมรับทราบทุกครั้ง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจเป้าหมายเดียวกัน และด้านการสรุปและการติดตามผลการประชุม มีการติดตามผลการประชุมแต่ละระเบียบวาระการประชุม เพื่อให้มีความแน่ใจว่าทุกคนมีความเข้าใจตรงกันในการปฏิบัติหลังการประชุม</p> บุญตา แสนกล้า Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/268797 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 Determinants of Google’s Gemini AI Chatbot Adoption Among Higher Education Students in Bangkok, Thailand https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/271875 <p>This study aims to examine the determinants influencing the intention to use the AI chatbot, like Gemini, among higher education students in Bangkok, Thailand. The research focuses on the perceptions and attitudes of Thai higher education students towards Gemini, evaluating factors such as perceived usefulness, perceived ease of use, attitude towards Gemini, privacy and security concerns, and facilitating conditions. A quantitative research approach was employed, collecting data from 385 students through online closed-ended questionnaires designed with a five-point Likert Scale. The data were analyzed using descriptive statistics to outline respondent characteristics and inferential statistics to test hypotheses and ascertain relationships between variables. The findings revealed that perceived usefulness and facilitating conditions are significant positive predictors of the intention to use Gemini, while privacy and security concerns also show an unexpectedly positive influence. Conversely, perceived ease of use and attitude towards Gemini do not significantly impact usage intentions. The study underscores the importance of demonstrating practical benefits and providing adequate support to enhance AI chatbot adoption in educational settings, while effectively addressing privacy and security concerns to further encourage usage. These insights offer valuable guidance for educators, policymakers, and technology developers aiming to integrate AI tools like Gemini into higher education.</p> Yarnaphat Shaengchart, Nalinpat Bhumpenpein, Pongsakorn Limna Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/271875 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 รูปแบบทางการบัญชีที่เหมาะสมและการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศทางการบัญชีสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์ผักไหม ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/272666 <p>งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาอุปสรรคการทำบัญชีและสารสนเทศทางการบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์ผักไหม อินทรีย์ผักไหม ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ 2) เพื่อออกแบบรูปแบบการทำบัญชีและสารสนเทศทางการบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์ผักไหม ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ และ 3) เพื่อประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศงานบัญชีที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์ผักไหม ตำบลผักไหม จังหวัดศรีสะเกษ โดยใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงจาก 1) ประธานกลุ่ม 2) รองประธานกลุ่ม 3) เจ้าหน้าที่บัญชีกลุ่มฯ รวมจำนวน 5 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ การสนทนากลุ่มการสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า ปัญหาอุปสรรคการทำบัญชีและสารสนเทศทางการบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์ผักไหม ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ มีการบันทึกบัญชีลงในสมุดทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้องตามรูปแบบบัญชี ในการบันทึกบัญชีจะใช้เพียงสมุดเล่มเดียวในการจดรายการเงินสด ไม่มีสมุดบัญชีและทะเบียนคุม ไม่มีการจัดทำเอกสารหลักฐานในการบันทึกบัญชี การจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระบบ ในการออกแบบรูปแบบทางการบัญชีให้กับกลุ่ม มีรูปแบบบัญชี ประกอบด้วย 1) สมุดเงินสด 2) สมุดรายวันทั่วไป 3) สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป 4) สมุดบัญชีค่าสมัครสมาชิก 5) ทะเบียนสมาชิกและหุ้น 6) ทะเบียนคุมสินทรัพย์ 7) ทะเบียนคุมสินค้า 8) สมุดเงินฝากธนาคาร 9) บัญชีลูกหนี้ 10) บัญชีเจ้าหนี้ 11) สมุดขายสินค้า และ 12) สมุดรายได้ค่าบริการ ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของชุมชนในด้านการบริหารจัดการกลุ่มและสอดคล้องกับความถูกต้องทางการบัญชี และมีการออกแบบตามความต้องการของผู้ใช้งานภายใต้บริบทของวิสาหกิจชุมชนด้านระบบบัญชีโดยการประยุกต์ใช้โปรแกรม Excel มาช่วยในการจดบันทึกข้อมูลทางบัญชี ทำให้สามารถบริหารจัดการกับระบบข้อมูลทางบัญชีได้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น</p> สุภัทรษร ทวีจันทร์ Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/272666 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การเสริมความสามารถของเทคนิคการตรวจสอบบัญชีโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAATs) ผ่านการใช้งานโครงข่ายประสาทเทียม (ANNs) https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/270345 <p>การศึกษานี้สำรวจการผสานรวมระหว่างโครงข่ายประสาทเทียม (ANNs) กับเทคนิคการตรวจสอบบัญชีโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAATs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความลึกของกระบวนการตรวจสอบ แม้ว่า CAATs จะได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการจัดการกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อเทียบกับความซับซ้อนและปริมาณของธุรกรรมทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ANNs นำเสนอการแก้ปัญหาโดยใช้ความสามารถในการเรียนรู้จากข้อมูลและระบุรูปแบบที่ซับซ้อน ซึ่งช่วยปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับการทุจริตและการวิเคราะห์ข้อมูลภายในกระบวนการตรวจสอบบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ</p> <p>จากการศึกษาพบว่า ANNs สามารถรวมกับเครื่องมือตรวจสอบแบบดั้งเดิมเพื่อแก้ไขข้อจำกัดในปัจจุบันได้ โดยทำการทดสอบและการจำลองข้ามชุดข้อมูลที่หลากหลาย ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ANNs ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถของ CAATs ในการตรวจจับความไม่สอดคล้องและกิจกรรมทุจริตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลแบบทันทีได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจในการตรวจสอบ นอกจากนี้ การศึกษาอภิปรายถึงความท้าทายและข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน ANNs ในการตรวจสอบบัญชี รวมถึงความต้องการทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมากและความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่โปร่งใสของกระบวนการตัดสินใจของ ANNs ข้อเสนอแนะในการลดความเสี่ยงเหล่านี้ ได้แก่ การเพิ่มความโปร่งใสและการพัฒนากลไกการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่องภายใน ANNs เพื่อติดตามพัฒนาการทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป การผสานรวมของ ANNs กับ CAATs แสดงถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในวิชาชีพการตรวจสอบ แนะนำการเปลี่ยนแปลงสู่แนวทางตรวจสอบบัญชีที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เช่น IoT ที่รองรับความซับซ้อนของระบบการเงินสมัยใหม่ได้ดี สุดท้ายนำไปสู่การรายงานทางการเงินที่เชื่อถือได้และโปร่งใสยิ่งขึ้น</p> ไพโรจน์ เกตุภักดีกูล, ธเรศ สันตติวงศ์ไชย, สุกัณยา กิตติคุณงาม, เพ็ญจันทร์ แสงอาวุธ, ปทิดา ลิ้มชัยเจริญ Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/270345 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สอง: กรณีศึกษาโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/273366 <p>บทความวิชาการนี้มีจุดมุ่งหมายในการนำเสนอแนวคิด ประสบการณ์ และผลลัพธ์ เกี่ยวกับการบริหารจัดการเรียนการสอนเชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สองสู่โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สอง กรณีศึกษาโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ จังหวัดนนทบุรี สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 โดยกระบวนการบริหารจัดการเรียนการสอนเชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สอง กรณีศึกษาโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูล ขั้นที่ 2 กำหนดโครงสร้างหลักสูตร ขั้นที่ 3 วางแผนหรือประชุมชี้แจง ขั้นที่ 4 ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ขั้นที่ 5 จัดกิจกรรมนอกห้องเรียน ขั้นที่ 6 รายงานผลการดำเนินงาน ขั้นที่ 7 ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา และขั้นที่ 8 ถอดบทเรียนหรือเผยแพร่สู่สาธารณชน โดยขั้นตอนการบริหารจัดการเรียนการสอนเชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สองข้างต้น เป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ ตัวอย่างผลลัพธ์ของกระบวนการบริหารจัดการข้างต้น เช่น สถานศึกษาได้รับรางวัลโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนการสอนเชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สอง ประจำปี 2566 มอบโดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา เป็นต้น ดังนั้น โรงรียนอนุราชประสิทธิ์ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 จึงเป็นโรงเรียนต้นแบบในการบริหารจัดการเรียนการสอนเชิงรุกภาษาต่างประเทศที่สองแก่ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ที่แสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาในโลกยุคใหม่ (Modern World)</p> กัญญา จำปาพันธ์ Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/273366 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700