วารสารวิชาการการท่องเที่ยวไทยนานาชาติ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt <div id="focusAndScope"> <p><br /> วารสารวิชาการการท่องเที่ยวไทยนานาชาติ เริ่มต้นภายใต้การดำเนินงานของสถาบันวิจัย<br />เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวไทย สังกัดสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 <br />จนถึง พ.ศ. 2553 ภายหลังในปี พ.ศ. 2554 คณะการจัดการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์<br />ได้เป็นผู้ดำเนินการจัดทำและเผยแพร่วารสารดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน วารสารนี้มีเป้าหมายสำคัญ<br />ในการตีพิมพ์เผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการ โดยคำนึงถึง ข้อกำหนดจริธรรรม เป็นสำคัญ</p> <p> </p> <h3>วัตถุประสงค์และขอบเขต</h3> <p>วารสาร ฯ มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานประเภทบทความวิจัย และบทความวิชาการ <br />ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวข้องกับสาขาการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ<br /><br />วารสาร ฯ เปิดรับพิจารณาบทความตลอดทั้งปี โดยกำหนดเผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ ได้แก่ <br />ฉบับที่ 1 ระหว่างเดือนมกราคม - มิถุนายน และฉบับที่ 2 ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม</p> <p> </p> </div> <div id="peerReviewProcess"> <h3>การพิจารณาบทความ</h3> <p>กองบรรณาธิการจะดำเนินการพิจารณาเบื้องต้นว่าบทความมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของวารสาร ไม่มีความซ้ำซ้อน และมีรูปแบบบทความตามที่วารสารกำหนด จากนั้นจะดำเนินการพิจารณา<br />โดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) จำนวน 3 ท่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง<br />จากหลากหลายสถาบัน และไม่สังกัดหน่วยงานเดียวกันกับผู้แต่ง ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาบทความ<br />ใช้รูปแบบการพิจารณาแบบ Double-blind Peer Review คือ การที่ผู้พิจารณาบทความจะไม่ทราบ<br />ข้อมูลของผู้แต่ง และผู้แต่งก็จะไม่ทราบข้อมูลของผู้พิจารณาบทความ</p> <p> </p> </div> <div id="publicationFrequency"> <h3>ค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์บทความ</h3> <p>สำหรับบทความที่ส่งเข้าระบบตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป <br />วารสาร ฯ ได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการตีพิมพ์บทความ <br />เป็นเงิน 4,500 บาทต่อบทความ โดยผู้แต่งจะต้องดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมและแจ้งการชำระเงินดังกล่าว<br />ภายในระยะเวลา 10 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากกองบรรณาธิการว่าผ่านการกลั่นกรองเบื้องต้น<br />โดยกองบรรณาธิการแล้ว ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการส่งบทความให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพบทความ <br />โดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) <br />ในนามบัญชี "สหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์" เลขที่บัญชี 944-0-000090 <br /><em>ค่าธรรมเนียมที่ชำระแล้วทางวารสารขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนให้ในทุกกรณี<br /></em></p> </div> th-TH ittj@nida.ac.th (Assistant Professor Chokechai Suveatwatanakul, Ph.D.) ittj@nida.ac.th (Pawinee Patumwattanawate) Tue, 02 Dec 2025 16:27:44 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 ปัจจัยที่ส่งผลพฤติกรรมการโพสต์เซลฟี ของนักท่องเที่ยวชาวไทย กลุ่ม Gen Z ในจังหวัดภูเก็ต https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275897 <p>งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการโพสต์เซลฟีของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ในจังหวัดภูเก็ต และเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการโพสต์เซลฟีของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ในจังหวัดภูเก็ต การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 328 คน การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งเหตุผลหลักในการโพสต์เซลฟีคือการเก็บความทรงจำและการแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อน สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการโพสต์เซลฟีนั้น ปัจจัยการแสดงออกทางสังคมและปัจจัยการเปิดเผยตัวเองมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการโพสต์เซลฟีของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการศึกษาครั้งนี้ ประโยชน์สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว</p> กัญญารัตน์ ทองบุตร, ณัฐธยาน์ ไกรเทพ, กัญญารัตน์ ทะเลลึก, เบญจพร ช่วยท่าพยา, รสริน ธัญญุพักตร์, ชิดชนก อนันตมงคลกุลุ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275897 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700 สื่อออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275085 <p>บทความวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของสื่อออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีของนักท่องเที่ยวกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย โดยระเบียบวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มเจนเนอเรชั่นวายที่มีอายุระหว่าง 18-33 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอท่าม่วง อำเภอเมือง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม โดยแบ่งออกเป็น 4 ตอน ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ลักษณะคำถามนั้นเป็นคำถามแบบปลายปิด ตอนที่ 3 และตอนที่ 4 เป็นคำถามประเภทปลายปิดแบบ Likert Scale Questions ให้เลือกคำตอบตรงกับทัศนคติมากที่สุด โดยใช้เทคนิคการสุ่มกลุ่มตัวอย่างเพื่อตอบแบบสอบถามแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ผลการศึกษาพบว่า เมื่อวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) เมื่อพิจารณาตัวแปรในปัจจัยด้านสื่อออนไลน์แล้วพบว่า มีตัวแปร 5 ตัวที่มีอิทธิพลเชิงบวก ต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่กลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 5 ตัวแปร ได้แก่ KOLs /Influencer, Media Sharing, Microblog (Twitter), Online forums, และ Social network ตามลำดับ โดยปัจจัยด้านสื่อออนไลน์ที่ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย ได้แก่ Blog และ Social News and Bookmarking</p> วราภรณ์ บัวดี, วิภารัตน์ สุราลัย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275085 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700 The องค์ประกอบการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่ส่งผลต่อความตั้งใจเชิงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ในประเทศไทย https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/277489 <p>การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นในการศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่ส่งผลต่อความตั้งใจเชิงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทย กลุ่ม Gen Z ในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับ<br />ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ที่มีต่อองค์ประกอบการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย และเพื่อศึกษาปัจจัยองค์ประกอบที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม <br />Gen Z ในประเทศไทย โดยการใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Approach) โดยเก็บข้อมูลจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Z ที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงอนุมาน โดยการใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียรสันเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยใช้สถิติการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) สำหรับผลการศึกษาระดับความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ที่มีต่อองค์ประกอบการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย พบว่า นักท่องเที่ยวมีระดับความคิดเห็นสูงต่อปัจจัยด้านสิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว และผลการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยองค์ประกอบที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของนักท่องเที่ยวชาวไทย พบว่า ปัจจัยความเป็นเอกลักษณ์ ปัจจัยการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอจุดเด่น ปัจจัยการให้บริการและการให้ข้อมูลข่าวสาร ปัจจัยลักษณะทางกายภาพ และปัจจัยรูปแบบกิจกรรมส่งผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่ม Gen Z ในประเทศไทย</p> ชลธิชา รุ่งศรี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/277489 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700 รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเมืองสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ย่านเมืองเก่าภูเก็ต https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/277712 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการจัดการท่องเที่ยวเมืองสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่าภูเก็ตอย่างยั่งยืน 2) เพื่อสร้างแนวทางการจัดการท่องเที่ยวเมืองสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่าภูเก็ตอย่างยั่งยืน การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่มกับผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 20 คน จาก 5 ภาคส่วน ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวและสมาชิกชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต มัคคุเทศก์ในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐด้านการจัดการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการในพื้นที่ย่านเมืองเก่า และผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และวิธีการสุ่มแบบอ้างอิงด้วยบุคคลและผู้เชี่ยวชาญ (Snowball Sampling) ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์แก่นสาระ (Thematic Analysis)</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การศึกษาการจัดการเมืองสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย การจัดการภูมิทัศน์วัฒนธรรม การจัดการสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยว และการพัฒนาสู่เมืองสร้างสรรค์ ในด้านการสร้างแนวทางการจัดการเมืองสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนมีแนวทาง ได้แก่ แนวทางการจัดการเมืองสร้างสรรค์ แนวทางการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ แนวทางการสร้างการรับรู้คุณค่า และแนวทางการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่า ซึ่งได้รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเมืองสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ในรูปแบบ BABA YAYA Model&nbsp;</p> เบญจมาภรณ์ ชำนาญฉา, เชิดชัย กลิ่นธงชัย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/277712 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวตามเกณฑ์มาตรฐาน การท่องเที่ยวโดยชุมชน อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/274914 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อประเมินศักยภาพการท่องเที่ยวตามเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยว<br />โดยชุมชน 2. แนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวตามเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยดำเนินวิจัยเชิงคุณภาพใช้การสำรวจ สังเกตการณ์ สนทนากลุ่ม และสัมภาษณ์เชิงลึกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวตามเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จำนวน 20 คน ผลการศึกษาพบว่า 1. การประเมินศักยภาพการท่องเที่ยวตามเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ทั้ง 6 ด้าน ภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม เมื่ออธิบายในแต่ละด้านตามลำดับผลการประเมินจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด พบว่า ด้านการจัดการเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตที่ดี รองลงมา ด้านการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการด้านการเข้าถึงตลาด และทำงานร่วมกับผู้ประกอบการนำเที่ยวภายนอก ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมชุมชน ด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านคุณภาพการบริการการท่องเที่ยวโดยชุมชน และด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน 2. แนวทางในการพัฒนาศักยภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ควรมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับบริบทเชิงพื้นที่ จัดทำข้อมูลทางมรดกวัฒนธรรม กำหนดขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพผู้นำเที่ยวชุมชนหรือนักสื่อความหมาย แนวปฏิบัติร่วมกับผู้ประกอบการนำเที่ยวผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน</p> เสรี บุญรัตน์, อรอนงค์ อำภา, วีณา ลีลาประเสริฐศิลป์, ณิชา ตันติรักษ์ธรรม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/274914 Sun, 08 Jun 2025 00:00:00 +0700 การสร้างสมดุลในการจัดการเชิงฐานราก (บริบทเรียนรู้โลจิสติกส์) การขับเคลื่อนเพื่อ การแข่งขัน ทุน-ท่องเที่ยว-ชุมชนเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275345 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ ประเมินศักยภาพโลจิสติกส์ด้านการท่องเที่ยว และเสนอแนวทางการสร้างศักยภาพการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวชุมชนเมืองจังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้หลักการ “ทุน-ท่องเที่ยว-ชุมชนเมืองศรีสะเกษ” โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงผสาน (Mix Method) ประเมินคุณภาพโครงข่ายถนนด้วยหลักคุณภาพ 4S ประเมินศักยภาพโลจิสติกส์การท่องเที่ยวตามกรอบ PIFFS Analysis และสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ SWOT เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย ผลการวิจัยพบว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์อยู่ในระดับดีมาก บ่งชี้ว่าโครงข่ายถนนมีศักยภาพสูงในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ผลการประเมินศักยภาพ โลจิสติกส์ด้านการท่องเที่ยว และความพึงพอใจต่อการจัดการโลจิสติกส์ด้านการท่องเที่ยวในเส้นทาง “ไหว้พระ 10 วัด สิริสวัสดิมงคล” อยู่ในระดับปานกลาง และนำผลการวิเคราะห์ SWOT จากผลการวิจัยมากำหนดเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไป</p> โชติรส นพพลกรัง, ณัฐกร โต๊ะสิงห์, มนัญญา นาคสิงห์ทอง, ปกรณ์ชัย สุพัฒน์, Thipsuda Kumphan ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275345 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารอีสาน เพื่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275138 <p>การศึกษานี้มุ่งเสนอแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารอีสานในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น <br />เพื่อผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ โดยการศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพตามองค์ประกอบของ<br />การท่องเที่ยวเชิงอาหารอีสาน ตลอดจนเสนอแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในพื้นที่ <br />การวิจัยใช้แบบผสมผสาน โดยกลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณเป็นนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 400 คน และผู้ให้ข้อมูลหลัก ประกอบด้วย ผู้ประกอบการร้านอาหารอีสาน และหน่วยงานภาครัฐ<br />และเอกชน จำนวน 9 คน ผลการวิจัยพบว่า ศักยภาพตามองค์ประกอบของการท่องเที่ยวเชิงอาหารอีสาน <br />ให้ความสำคัญกับการบริการและการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพจากท้องถิ่น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้<br />กับนักท่องเที่ยว แม้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังพึ่งพาการบอกต่อมากกว่าการใช้เทคโนโลยีหรือโซเชียลมีเดีย <br />แต่มีความพยายามในการปรับตัวเพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมนูท้องถิ่น ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประสบการณ์ในการบริโภคอาหารอีสาน และอัตลักษณ์ของอาหารอีสาน ล้วนมีผลกระทบเชิงบวกต่อการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยที่ประสบการณ์ในการบริโภคอาหารอีสานมีอิทธิพลมากที่สุดแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว<br />เชิงอาหารอีสานสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ เสนอให้มีการสร้างการรับรู้ต่ออาหารอีสาน การพัฒนาศักยภาพการตลาด<br />ของผู้ประกอบการอาหารอีสาน รวมถึงการส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารอีสาน เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน <br />และส่งเสริมประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว</p> วราภรณ์ บุญทอง, กชกร ทาร่อน, เมษ์ธาวิน พลโยธี, วันชัย ทิพนัส ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/275138 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700 The Role of Cryptocurrency in Thailand’s Tourism Industry: Potential for Cross-Border Payments https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/277242 <p>This research aimed to 1) identify the impact of cryptocurrency adoption for cross-border payments in the tourism industry in Thailand and 2) explore the perspectives and experiences of industry experts and international travelers on the use of cryptocurrency for cross-border payments in the tourism industry in Thailand. The research used a mixed-methods approach, including quantitative econometric modeling and qualitative insights from focus group discussions. The results of the research are 1) cryptocurrency adoption has the potential to improve cross-border payments and have a positive impact on revenue for the tourism industry in Thailand. 2) The qualitative data revealed varying levels of awareness, with younger participants more accepting while older participants were more hesitant due to knowledge gaps and security concerns. Despite regulatory uncertainty and operational barriers, there is still hope for the future of cryptocurrency in the tourism industry in Thailand, highlighting the importance of regulatory clarity and awareness campaigns to unlock its potential.</p> Sethapong Watanapalachaikul ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/277242 Tue, 02 Dec 2025 00:00:00 +0700