https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/issue/feed วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา 2025-06-21T16:10:02+07:00 อาจารย์ ดร.ธานี ชูกำเนิด thanee.chu@hotmail.com Open Journal Systems <h2><strong><span style="font-size: big;">วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา<br /></span></strong></h2> <h2 class="a"><strong>Journal of Ayutthaya Studies</strong></h2> <p><strong>ISSN 3027-7248 (Print) และ ISSN 3027-7256 (Online)</strong></p> <p class="a"><span lang="TH">วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา </span>Journal of Ayutthaya Studies <span lang="TH">เป็นวารสารวิชาการของสถาบันอยุธยาศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่บทความทางวิชาการ (</span>Article) <span lang="TH">และบทความงานวิจัย (</span>Research Article) <span lang="TH">ในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่สอดคล้องกับบริบทของอยุธยาในมิติต่างๆ</span></p> <p class="a"><span lang="TH">วารสารมีกำหนดเผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ คือ ฉบับเดือนมกราคม–มิถุนายน และฉบับเดือนกรกฎาคม–ธันวาคม โดยดำเนินการเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณาเบื้องต้นโดยกองบรรณาธิการ และเข้าสู่กระบวนการประเมินคุณภาพโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกซึ่งมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่าน ตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. 2564 โดยใช้ระบบการพิจารณาแบบ </span>Double-blind Peer Review <span lang="TH">ซึ่งผู้ประเมินและผู้เขียนบทความจะไม่ทราบชื่อและข้อมูลซึ่งกันและกัน บทความที่ผ่านการประเมินจะได้รับการเผยแพร่ทั้งในรูปแบบวารสารอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบออนไลน์ และในรูปแบบตีพิมพ์เป็นเล่ม เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการอย่างกว้างขวาง</span></p> <p><strong>ภาษา:</strong> ภาษาไทย<br /><strong>กำหนดเผยแพร่:</strong> 2 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน / ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม<br /><strong>อัตราค่าส่งบทความ : </strong>3,000 บาท / บทความ</p> https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/article/view/269985 ภาพแทนนิมิตดีและนิมิตร้าย ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) 2024-07-18T14:35:53+07:00 ปฐมพงษ์ สุขเล็ก p_0345043@hotmail.com รัตติกาล เถื่อนชนะ p_0345043@hotmail.com นราวิชญ์ นรถี p_0345043@hotmail.com รัตนาวดี ปาแปง p_0345043@hotmail.com <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาพแทนนิมิตดีและนิมิตร้ายในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ผลการวิจัยพบว่า ภาพแทนนิมิตดีปรากฏ 4 ภาพแทนคือ ภาพแทนปรากฏการณ์ธรรมชาติมงคล ภาพแทนมนุษย์ที่ไม่ถูกทำร้าย ภาพแทนสัตว์มงคล และภาพแทนเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนภาพแทนนิมิตร้ายปรากฏเพียง 3 ภาพแทน คือ ภาพแทนปรากฏการณ์ธรรมชาติอวมงคล ภาพแทนสัตว์ที่เป็นอวมงคล และภาพแทนภูตผี ภาพแทนนิมิตดีและภาพแทนนิมิตร้ายมีลักษณะตรงข้ามกันมีความสัมพันธ์กับมโนทัศน์ของสังคมไทยที่สามารถตีความเพื่อสื่อถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องมงคลหรือเรื่องอวมงคล ภาพแทนนิมิตนี้จึงผ่านการตีความซึ่งยังคงสืบทอด<br />มาถึงสังคมไทยปัจจุบัน</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/article/view/269374 ความหมายและความงามทางทัศนศิลป์ของภาพไตรภูมิบนตู้ลายรดน้ำ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา 2024-12-18T09:10:33+07:00 นฤทธิ์ วัฒนภู narit@buu.ac.th <p class="a"><span lang="TH">บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ความหมาย และความงามทางทัศนศิลป์ของภาพไตรภูมิบนตู้ลายรดน้ำ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา เป็นการวิจัยเอกสาร (</span>Documentary Research<span lang="TH">) โดยศึกษาจากเอกสารประเภทต่าง ๆ เช่น วรรณคดีเตภูมิกถา สมุดภาพไตรภูมิ ภาพถ่าย ฯลฯ วิเคราะห์เทียบเคียงภาพกับเนื้อหาในวรรณคดี ผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ความงามของภาพด้วยทฤษฎีทางทัศนศิลป์ ผลการวิจัย พบว่า</span></p> <p class="a"><span lang="TH">ภาพไตรภูมิบนตู้ลายรดน้ำ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ปรากฏอยู่บนบานประตูของตู้ ภาพหลายจุดค่อนข้างเลือนราง ภาพและองค์ประกอบสามารถเชื่อมโยงถึงเนื้อเรื่องในวรรณคดี เตภูมิกถา แต่ช่างคัดเลือกเฉพาะรายละเอียดสำคัญที่ให้ความหมายถึงจักรวาลตามคติทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดและพื้นที่</span></p> <p class="a"><span lang="TH">ความงามทางทัศนศิลป์ของภาพไตรภูมิ มีลักษณะเด่นในการจัดวางองค์ประกอบทางศิลปะด้วยหลักความสมดุล ทั้งแบบสมมาตรและอสมมาตร โดยใช้ภาพเขาพระสุเมรุวางอยู่กึ่งกลางของพื้นที่ และแวดล้อมด้วยองค์ประกอบอื่นที่เสริมให้ความหมายของศูนย์กลางจักรวาลมีความเด่นชัดขึ้น</span></p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/article/view/267006 การวิเคราะห์องค์ประกอบทางดนตรีและศึกษาวัฒนธรรม “ลิเกมูโหลด” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2024-07-17T15:11:19+07:00 ทรงพล คชเสนี kochasanee@hotmail.com <p>การศึกษาวิจัย เรื่อง การวิเคราะห์องค์ประกอบทางดนตรีและศึกษาวัฒนธรรม “ลิเกมูโหลด” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์องค์ประกอบทางดนตรีของบทเพลงลิเกมูโหลด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโน้ตสากลมีเนื้อร้องประกอบโน้ต 2) เพื่อศึกษาวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับบทเพลงลิเกมูโหลด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้ข้อมูลภาคสนาม เอกสาร ตำรา หนังสือทางวิชาการ และหนังสือต่าง ๆ เป็นข้อมูลในการสนับสนุน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้</p> <ol> <li>การวิเคราะห์องค์ประกอบทางดนตรีของบทเพลงลิเกมูโหลด ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยารูปแบบวงมี 2 ขนาด ใหญ่และเล็ก อุปกรณ์ดนตรี ได้แก่ กลองรำมะนา กรับ ฉิ่ง ศึกษาวิจัยโดยการถอดทำนองเพลง 2 เพลงเป็นโน้ตสากล คือ บทเพลงซอลาอันนาบี และบทเพลงบินนารง คีตลักษณ์ทั้งสองเป็นรูปแบบรอนโด (Rondo Form) เพลงซอลาอันนาบีมี 11 ประโยค มีขั้นคู่ 2, 3 ช่วงเสียงต่ำสุดไปสูงสุดเป็นคู่ 6 มี 6 เสียง คือ C#, D, E, F#, G, A เป็นบันไดเสียง D เมเจอร์ ส่วนเพลงบินนารงมี 7 ประโยค มีขั้นคู่ 2, 3, 4, 5 ช่วงเสียงต่ำสุดไปสูงสุดเป็นคู่ 8 หรือ 1 ออกเทฟ (Octave) มี 7 เสียง E, F#, G, A, B, C, D เป็นบันไดเสียง G เมเจอร์</li> <li>การศึกษาวัฒนธรรมลิเกมูโหลด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ยังคงมีการแสดงกันอยู่ชุมชนไทยมุสลิม ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชาวไทยมุสลิมเชื้อสายมลายู ที่ร้องเล่นในงานมงคลต่าง ๆ เนื้อหาส่วนใหญ่มาจากหนังสือ “บัรซันญี” ไม่มีขั้นตอนและรูปแบบที่ตายตัว เช่น ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนการเล่น ขั้นตอนพิธีกำนลครู ขนาดของวง รวมทั้งการแต่งกายไม่มียูนิฟอร์ม นิยมนุ่งห่มตามหลักศาสนาบัญญัติ ซึ่งมีความต่างจากลิเกเรียบและการแสดงอุเละห์นบี ที่มีขั้นตอนและรูปแบบที่ตายตัว</li> </ol> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/article/view/271040 “อโยธยา” ทางทิศตะวันออกนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ข้อเท็จจริงหรือมายาคติ? 2024-09-17T14:29:53+07:00 นนทวัชร์ ไกรสกุล kraisakul_n@silpakorn.edu <p class="a"><span lang="TH">บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนองค์ความรู้และวิเคราะห์หลักฐานทางโบราณคดี</span><span lang="TH">ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนโบราณก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาหรือเมืองอโยธยาที่ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา โดย “อโยธยา” หรือ “อโยธยา-ศรีรามเทพนคร” เชื่อกันว่าเป็นชื่อรัฐหรือเมืองโบราณที่มีมาก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์หลายท่านศึกษาและให้ข้อเสนอว่ารัฐโบราณดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาโดยอ้างอิงเรื่องราวจากพงศาวดารเหนือที่กล่าวถึงวัดเดิม วัดพระนางเชิง วัดกุฎีดาว และวัดมเหยงคณ์ ประกอบกับหลักฐานจากพระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ว่าด้วยการสร้างพระพุทธเจ้าพแนงเชิง เมื่อ พ.ศ.1867 ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา 26 ปี นอกจากนี้ยังปรากฏเครือข่ายลำน้ำคูคลองที่ขุดตัดกันอย่างเป็นระบบซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคูเมืองและระบบชลประทานของเมืองโบราณแห่งนี้ อย่างไรก็ตามผลการศึกษาพบว่าจากการศึกษาหลักฐานโบราณคดีและสภาพพื้นที่ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ทางทิศตะวันออกนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาพบหลักฐานการอยู่อาศัยช่วงก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาอย่างเบาบาง และพบว่าพื้นที่แห่งนี้มีการอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 ต่อเนื่องตลอดสมัยอยุธยา ปรากฏการขยายตัวของเมืองจากศูนย์กลางทางทิศตะวันตกมายังพื้นที่ทางทิศตะวันออกโดยไม่ปรากฏหลักฐานโบราณคดีที่แสดงถึงเมืองโบราณ “อโยธยา” แต่อย่างใด</span></p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/article/view/268031 ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจอยุธยาจากละครพรหมลิขิต 2024-07-18T11:02:00+07:00 วสันต์ มหากาญจนะ lamau_ser@hotmail.com <p class="a"><span lang="TH">บทความวิชาการเรื่อง “ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจอยุธยาจากละคร “พรหมลิขิต”” มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาบทบาทของ “นวนิยาย” ที่ถูกปรับมาเป็นการสร้าง “ละคร”ทางโทรทัศน์นั้น ช่วยให้สาธารณชนมีความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ได้ดีขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะในกรณีของประวัติศาสตร์เศรษฐกิจอยุธยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลผลิตของนักวิชาการ ผู้ที่มีประสบการณ์ในการศึกษาเรื่องราวเหล่านี้โดยตรงผลของการศึกษาทำให้ทราบว่านวนิยายอิงประวัติศาสตร์ดังเช่น “พรหมลิขิต”ที่ได้รับการนำมาสร้างเป็นบทละครอิงประวัติศาสตร์นั้น ได้มีการคัดเลือกข้อมูลและใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ซึ่งถือเป็นหลักในการอธิบายเรื่องราวทางเศรษฐกิจอยุธยาดังเช่น “พรรณนาภูมิสถานพระนครศรีอยุธยา”นั้นมีคุณค่ามากพอที่จำนำเสนอต่อสาธารณชน ขณะเดียวกันการถือกำเนิดและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้าน</span><span lang="TH">การสื่อสาร สารสนเทศในรอบสามทศวรรษที่ผ่านมา สามารถตอบสนองและสร้างเครือข่ายการรับรู้ นำเสนอ ข่าวสาร ความบันเทิง ด้วยความรวดเร็ว การดำเนินการจากนั้นคือการย่อยเรื่องต่าง ๆ</span><span lang="TH">ทางประวัติศาสตร์ ย่อยเรื่องใช้ในวรรณกรรมและนำไปสู่การสร้างภาพยนต์ สารคดี ละคร ที่ลดช่องว่าง</span><span lang="TH">ในการรับรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ทันสมัยสำหรับบุคคลภายนอกและสังคมโดยรวม</span></p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jas/article/view/269755 การศึกษากระบวนการกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของท้าวศรีสุดาจันทร์ แห่งวัดแร้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2024-10-10T16:23:28+07:00 ชนินทร์ ผ่องสวัสดิ์ chaninphopsawat@gmail.com ปิยวัจน์ ภะมะรินทร์ มีประเสริฐโชค chaninphopsawat@gmail.com <p>บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของท้าวศรีสุดาจันทร์แห่งวัดแร้ง ซึ่งการกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์มีความพิเศษกว่าบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยท่านอื่น มักจะได้รับการยกย่องเพราะได้สร้างคุณงามความดีไว้ การศึกษาครั้งนี้ได้สัมภาษณ์บุคคลในพื้นที่จนพบว่า การกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของท้าวศรีสุดาจันทร์เริ่มจากการบูชาของครอบครัวที่เข้ามาพักอาศัยในพื้นที่ของวัดแร้ง เพื่อให้พระองค์ปกปักษ์คุ้มครอง จนกระทั่งมีผู้ศรัทธาตั้งศาลถวาย เนื่องจากพระองค์ได้บันดาลโชคลาภให้ ทำให้เกิดการเข้ามาสักการะขอพรจากคนนอกพื้นที่มากขึ้น กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถปลดเปลื้องความทุกข์ให้กับมวลชนได้อย่างหลากหลาย </p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา