วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas
<p>วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง</p> <p>Online ISSN: 3088-1595</p> <p> </p>
Faculty of Business Administration Ramkhamhaeng University
en-US
วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
3088-1595
<p>เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ </p> <p>บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำบทความทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ หรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนเท่านั้น </p>
-
บทบรรณาธิการ
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/280042
ปรเมษฐ์ บุญนำศิริกิจ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการพบแพทย์ทางไกลของโรงพยาบาลเอกชน ในจังหวัดสงขลา
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/276120
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบ 1) ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ และ 2) ปัจจัยด้านคุณภาพการบริการที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการใช้บริการแพทย์ทางไกลของโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดสงขลา ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ซึ่งเป็นประชากรในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา (ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และสถิติเชิงอนุมาน (การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ)</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ด้านรายได้ที่แตกต่างกันมีผลต่อความเชื่อมั่นในการใช้บริการแพทย์ทางไกลที่แตกต่างกัน ในขณะที่เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส และอาชีพ ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยด้านคุณภาพการบริการ: ด้านการตอบสนองผู้รับบริการส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการพบแพทย์ทางไกลมากที่สุดอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ส่วนด้านลักษณะทางกายภาพ การให้ความมั่นใจ และความดูแลเอาใจใส่ มีผลอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 แต่ด้านความน่าเชื่อถือไม่มีผลที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05</p> <p>ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายคือ โรงพยาบาลเอกชนควรเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการโดยเน้นพัฒนาปัจจัยคุณภาพบริการ ได้แก่ การตอบสนองที่รวดเร็ว ลักษณะทางกายภาพของระบบ ความมั่นใจในบริการ และการเอาใจใส่ผู้ป่วย พร้อมทั้งคำนึงถึงความหลากหลายของรายได้ผู้ใช้บริการ</p>
ขนิษฐา สาริยะสุนทร
ชาคริต สกุลอิสริยาภรณ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
1
15
-
ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถการปรับตัวเชิงพลวัตและความอยู่รอดของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/275847
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความสามารถปรับตัวเชิงพลวัตและความอยู่รอดของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถปรับตัวเชิงพลวัตและความอยู่รอดของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย และ 3) เพื่อศึกษาความสามารถปรับตัวเชิงพลวัตที่ส่งผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย 205 ราย ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิและการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามออนไลน์ที่ได้รับการตรวจสอบความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่นแล้ว การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และ การทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีระดับความสามารถปรับตัวเชิงพลวัตโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการมุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดที่มีความยืดหยุ่น ด้านนวัตกรรมทางการบริหาร ด้านศักยภาพในการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ด้านประสิทธิภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านการดำเนินงานเชิงรุกในการปฏิบัติงานขององค์กร ในขณะที่ระดับความอยู่รอดของธุรกิจอยู่ในระดับมาก 2) ความสามารถปรับตัวเชิงพลวัตทุกด้านมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความอยู่รอดของธุรกิจ และ 3) ความสามารถปรับตัวเชิงพลวัต 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการมุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดที่มีความยืดหยุ่น ด้านการดำเนินงานเชิงรุกในการปฏิบัติงานขององค์กร และ ด้านศักยภาพในการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ส่งผลเชิงบวกต่อความอยู่รอดของธุรกิจที่ระดับนัยสำคัญ 0.05</p>
ชุติกร ปรุงเกียรติ
พรหมจิรา เจาลา
เฉลิมเจษฎ์ สมานุหัตถ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
16
36
-
ความท้าทายและแนวการปรับตำแหน่งทางการตลาดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่: สภาพการณ์ ปัญหา และอุปสรรค สู่การยกระดับบทบาทในบริบท การท่องเที่ยวยุคดิจิทัลด้วยการสร้างทฤษฎีฐานรากแบบประกอบสร้างทางสังคม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/276898
<p>การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีวิทยาการสร้างทฤษฎีฐานรากแบบการประกอบสร้างทางสังคม มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการณ์ ปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินงานของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ และ 2) สร้างทฤษฎีฐานรากรูปแบบความท้าทายในการปรับตำแหน่งทางการตลาดของพิพิธภัณฑ์เพื่อยกระดับบทบาทในบริบทการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล ผู้วิจัยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลหลัก 20 คน ประกอบด้วยกลุ่มผู้บริหารและบุคลากร 10 คน และกลุ่มผู้เยี่ยมชมและชุมชน 10 คน โดยวิเคราะห์ข้อมูลตามกระบวนการของ Charmaz ผลการวิจัยพบว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่เผชิญความท้าทาย 5 มิติ ได้แก่ การสร้างศักยภาพองค์กร การบูรณาการนวัตกรรม <br />การสร้างความร่วมมือ กลยุทธ์การสร้างคุณค่า และการออกแบบประสบการณ์ผู้เยี่ยมชม นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้พัฒนาโมเดล "CICVE" ที่สื่อถึงแนวคิดการสร้างคุณค่าและความร่วมมือผ่านกระบวนการพัฒนาองค์กรแบบบูรณาการ โดยเน้นความสำคัญของการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล การสร้างเครือข่าย และการออกแบบประสบการณ์เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับพิพิธภัณฑ์ ข้อเสนอแนะ ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล <br />การฝึกอบรมบุคลากรให้มีทักษะด้านเทคโนโลยี และการสร้างความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การวิจัยครั้งต่อไปควรมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับบริบทของพิพิธภัณฑ์ไทยในยุคดิจิทัล</p>
ธเนศ เกษรสิริธร
ระชานนท์ ทวีผล
พิทักษ์ ศิริวงศ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
37
59
-
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการธีมโฮเทลในจังหวัดชลบุรี ของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/277829
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการโรงแรมประเภทธีมโฮเทลในจังหวัดชลบุรีของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว 2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมการตลาด (7Ps) ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โรงแรมประเภทธีมโฮเทลในจังหวัดชลบุรีของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว 3) เพื่อศึกษาการตัดสินใจเลือกใช้โรงแรมประเภทธีมโฮเทลในจังหวัดชลบุรีของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว จำแนกตามลักษณะส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยว เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม คือ 1) นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่มีประสบการณ์การท่องเที่ยวและใช้บริการโรงแรมประเภทธีมโฮเทล ในจังหวัดชลบุรี โดยใช้สูตรสูตรทาโร่ ยามาเน่ ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 จำนวน 400 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวกแล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบที ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ ด้วยวิธีการทดสอบ (LSD) และการถดถอยเชิงพหุคูณ 2) ผู้ประกอบการหรือผู้จัดการธีมโฮเทล ในจังหวัดชลบุรี และนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่เคยพักประเภทธีมโฮเทล ในจังหวัดชลบุรี ทั้งหมดจำนวน 15 คน ใช้วิธีการเลือกตัวอย่างแบบมีเกณฑ์ (Criterion Sampling) ใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง ใช้วิเคราะห์เนื้อหาแล้วเขียนบรรยายเชิงพรรณนา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการที่พักประเภทธีมโฮเทล ประมาณ 3,001 – 6,000 บาท มีการสำรองห้องพักล่วงหน้าประมาณ 1-3 สัปดาห์ เข้าพักประมาณ 1 – 2 คืนต่อครั้ง โดยพิจารณาการเลือกใช้จากความมีชื่อเสียง มีลักษณะการสำรองผ่านทาง Online Travel Agency หรือ จองผ่านตัวแทน และมีวัตถุประสงค์การใช้บริการที่พักเพื่อการท่องเที่ยวโดยมักเลือกใช้ห้องพักสำหรับครอบครัว2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาด (7Ps) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาด้านราคา ด้านการส่งเสริมการจัดจำหน่าย ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านบุคลากร ด้านลักษณะทางกายภาพ และด้านกระบวนการ 3) เพศ อายุ และอาชีพ มีการตัดสินใจใช้บริการที่พักประเภทธีมโฮเทลในจังหวัดชลบุรีของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่แตกต่างกัน และปัจจัยส่วนประสมการตลาด (7Ps) ได้แก่ ปัจจัยส่วนประสมการตลาด (7Ps) <br>ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการส่งเสริมการจัดจำหน่าย และด้านลักษณะทางกายภาพ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้ที่พักประเภทธีมโฮเทลในจังหวัดชลบุรี</p>
ศรัญญา เนียมฉาย
นนทพร สีหพันธุ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
60
84
-
ปัจจัยที่ส่งผลการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ของผู้สนใจจะเป็นแฟรนไชส์ซี
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/276924
<p>งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยด้านแฟรนไชส์ ส่วนประสมทางการตลาดและความสัมพันธ์ที่มีต่อการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ของผู้ที่สนใจจะเป็นแฟรนไชส์ซี กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้เข้าชมงานแสดงแฟรนไชส์นานาชาติ เก็บตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 275 ราย โดยใช้แบบสอบถาม ทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบขั้นตอน ผลวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านคำมั่นสัญญา ด้านประสบการณ์ และด้านระบบสนับสนุนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ของผู้สนใจเป็นแฟรนไชส์ซี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 แบบจำลองสามารถทำนายการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ได้ร้อยละ 33.7</p>
อรุณี เลิศกรกิจจา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
85
101
-
ทัศนคติแบบ Growth Mindset ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความก้าวหน้า ในการทำงานของคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลา
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ibas/article/view/276116
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพในการทำงานของคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลาที่มีทัศนคติแบบ Growth Mindset และ 2) ศึกษาความก้าวหน้าในการทำงานของคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลาที่มีทัศนคติแบบ Growth Mindset โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ กลุ่มคนวัยทำงานในช่วงอายุ 19 – 59 ปี ที่ทำงานในจังหวัดสงขลา จำนวน 400 คน สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นกลุ่มคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลา เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุคูณ</p> <p>ผลการศึกษา พบว่าทัศนคติแบบ Growth Mindset ด้านประสิทธิภาพ และความก้าวหน้าในการทำงานของคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และ Growth Mindset ด้านความเชื่อในศักยภาพทางปัญญาและความสามารถของตนเองส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานของคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลามากที่สุด และ Growth Mindset ด้านค้นพบบทเรียนและแรงบันดาลใจในความสำเร็จของผู้อื่นส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าในการทำงานของคนวัยทำงานในจังหวัดสงขลามากที่สุด อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05</p>
เอกอนงศ์ รติคณิตพงศ์
สมฉวี ศิริโสภณา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-29
2025-06-29
8 1
102
117