วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru <p> วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี รับตีพิมพ์บทความใน<strong>สาขาวิชามนุษยศาสตร์</strong> ภาษาและวรรณคดี ศิลปกรรม นาฏศิลป์และการละคร และ<strong>สาขาวิชาสังคมศาสตร์</strong> นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และการจัดการชุมชน</p> <p><strong>อัตราค่าพิจารณาบทความ<br /></strong> ผู้นิพนธ์ต้องชําระค่าธรรมเนียมค่าพิจารณาบทความและค่าตีพิมพ์บทความ ตามอัตราที่วารสารกําหนดนับจากวันที่กองบรรณาธิการวารสารแจ้งตอบรับบทความของท่านเข้าสู่กระบวนการพิจารณาบทความ ดังนี้<br /> - ค่าตีพิมพ์บทความ บทความ ละ 4,000 บาท<br /> - ค่าสมาชิก 300 บาท/ปี<br /><strong>** กรณีที่บทความของผู้นิพนธ์ไม่ผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ใน 3 ท่าน ทำให้บทความนั้นไม่ผ่านการพิจารณา หรือผู้นิพนธ์ถอนบทความออกระหว่างการพิจารณา วารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าตีพิมพ์บทความและค่าสมาชิก</strong></p> <p><strong>การชำระเงิน<br /></strong> ชำระเงินผ่านบาร์โค้ดที่ทางวารสารออกใบแจ้งชำระให้เท่านั้น โดยข้อมูลในใบแจ้งชำระค่าตีพิมพ์จะอ้างอิงตามข้อมูลที่ผู้นิพนธ์กรอกในแบบฟอร์มส่งบทความ</p> th-TH <p>บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี</p> <p>- บทความในวารสารวิชาการมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป็นความคิดเห็นของผู้นิพนธ์ ไม่ใช่ความคิดเห็นของกองบรรณาธิการ และไม่ใช่ความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการและ/หรือของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี</p> <p>- กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอก แต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา</p> <p>- บทความที่ได้รับตีพิมพ์จะมีการตรวจความถูกต้องเหมาะสมจากกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง (peer review) จำนวน 3 คน โดยผู้ทรงคุณวุฒิจะไม่ทราบผู้นิพนธ์ และผู้นิพนธ์ไม่ทราบชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ (double-blind peer review)</p> journal.human@dru.ac.th (รองศาสตราจารย์ ดร.รสริน ดิษฐบรรจง) journal.human@dru.ac.th (นางสาวอลิสา อรุณธนหิรัญ) Mon, 08 Dec 2025 00:00:00 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 เครื่องหนังร่วมสมัย: การพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยบนฐานอัตลักษณ์ ซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดนครศรีธรรมราช https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/279290 <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริการวิชาการภายใต้โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูสืบทอด และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมย่อย คือ การออกแบบแฟชั่นไทย การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องหนังร่วมสมัยบนฐานอัตลักษณ์ซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องหนังร่วมสมัยบนฐานอัตลักษณ์ซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบริการวิชาการโดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นฐานผ่าน 4 ขั้นตอน ได้แก่ การรวบรวมองค์ความรู้ การอบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ และการนำเสนอต้นแบบผลิตภัณฑ์ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ กลุ่มนครหัตถกรรม กลุ่มย่านลิเภาอะโทสะ กลุ่ม ช.ช่างแฝด กลุ่ม 4 ป.บาติก และกลุ่มเครื่องหนังแบรนด์มังคุด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัยสรุปได้ 4 ส่วน 1) การรวบรวมองค์ความรู้ พบว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีทุนวัฒนธรรมด้านหัตถศิลป์ที่รวบรวมได้ 5 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องถม จักสานย่านลิเภา งานไม้แกะสลัก ผ้าบาติก และเครื่องหนังร่วมสมัย 2) การอบรมเชิงปฏิบัติการ พบว่า ผู้ประกอบการได้รับความรู้ด้านการตลาดและต้นทุนการผลิต พร้อมพัฒนาแนวคิดการออกแบบเครื่องหนังที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค 3) การสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ พบว่า แต่ละกลุ่มได้สร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบชุดเซ็ต ประกอบด้วย กระเป๋าหนังเครื่องถม อุปกรณ์คาเฟ่ ฮอปปิ้ง เครื่องประดับจากไม้มงคล ผ้าบาติกตกแต่งที่พัก และอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง และ 4) การนำเสนอต้นแบบผลิตภัณฑ์ พบว่า ต้นแบบผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ร่วมสมัยได้รับการพัฒนาตามบริบทชุมชน ใช้วัสดุและกรรมวิธีท้องถิ่น พร้อมสร้างความสนใจและการยอมรับจากกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน</p> ตวงรัก รัตนพันธุ์, ชัชวาลย์ รัตนพันธุ์, อติวิช น้ำขาว ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/279290 Mon, 08 Dec 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการจัดการศูนย์ส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุตามแนวทาง พฤฒพลังระดับท้องถิ่น กรณีศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/280540 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ ปัญหา และความต้องการของผู้สูงอายุในจังหวัดสมุทรสงคราม และเสนอแนวทางการจัดการศูนย์ส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุตามแนวทางพฤฒพลังระดับท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสงคราม การวิจัยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ภาคนโยบาย ภาคผู้ให้บริการ ภาคผู้รับบริการ และภาควิชาการ จำนวน 35 คน และเก็บข้อมูลด้วยวิธีการสนทนากลุ่มกับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ จำนวน 10 คน เลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญด้วยวิธีแบบเฉพาะเจาะจง และวิธีแบบบอกต่อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์แก่นสาระ (thematic analysis) ผลการวิจัยพบว่า จังหวัดสมุทรสงครามอยู่ในสถานการณ์สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มติดสังคมแต่มีปัญหาจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มีความต้องการเข้าถึงบริการสุขภาพและกิจกรรมทางสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและบุคลากรในการทำงานผู้สูงอายุ แนวทางการจัดการศูนย์ควรเน้นการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่ โดยจัดตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์ที่เน้นคนในพื้นที่เป็นหลัก การให้บริการที่ยืดหยุ่นตามบริบทของพื้นที่และคำนึงถึงความพร้อมของทรัพยากรในแต่ละท้องถิ่น และมุ่งส่งเสริมสุขภาพเป็นแกนกลาง</p> ศรันย์ดิษฐ์ เบญจพงศ์, เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์, ฟ้าใส สามารถ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/280540 Mon, 08 Dec 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุต้นแบบ โดยบูรณาการศาสตร์พระราชาเป็นฐานการพัฒนาแบบองค์รวม ในจังหวัดสมุทรปราการ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/282616 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับสุขภาวะผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุต้นแบบ จังหวัดสมุทรปราการ 2) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชาเป็นแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุต้นแบบโดยบูรณาการศาสตร์พระราชาเป็นฐานการพัฒนาแบบองค์รวม ในจังหวัดสมุทรปราการ และ 3) สร้างแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุต้นแบบโดยบูรณาการศาสตร์พระราชาเป็นฐานการพัฒนาแบบองค์รวม ในจังหวัดสมุทรปราการ การดำเนินการวิจัยใช้วิธีแบบผสมผสาน (mixed methods) โดยมีเครื่องมือวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถาม (questionnaires) และแบบสัมภาษณเชิงลึก (in-depth interview forms) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้แบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ ผู้สูงอายุจำนวน 300 คน สุ่มหลายขั้นตอน สำหรับเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ และผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (key Informants) ซึ่งเป็นคณะกรรมการโรงเรียนผู้สูงอายุต้นแบบ จำนวน 32 คน สำหรับเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า ผู้สูงอายุมีสุขภาวะโดยรวมอยูในระดับมาก (x̅=3.92, S.D.=0.56) โดยด้านจิตใจมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̅=4.18, S.D.=0.67) ส่วนผลการวิจัยเชิงคุณภาพ นำไปสู่การสร้างแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุต้นแบบ ซึ่งเป็นแนวทางที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเป็นฐานการพัฒนาแบบองค์รวมทั้งด้านจิตใจ ด้านสังคม ด้านปัญญาและการรู้คิด ด้านอารมณ์ ด้านจิตวิญญาณ และด้านร่างกาย เพื่อให้เกิดความสุขอยางยั่งยืนในบริบทของชุมชนท้องถิ่น</p> จักรพันธ์ พรมฉลวย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/282616 Mon, 08 Dec 2025 00:00:00 +0700 สถานภาพการศึกษาวัจนกรรมในงานวิชาการของไทยในรอบ 33 ปี (พ.ศ. 2536–2568) https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/280877 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์สถานภาพการศึกษาวัจนกรรมจากการรวบรวมบทคัดย่อในงานวิชาการของไทยในรอบ 33 ปี (พ.ศ. 2536–2568) จำนวน 180 เรื่อง โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงเอกสาร รวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทย และ‍ฐานข้อมูลออนไลน์ 3 ข้อมูล ได้แก่ Thai Journals Online (TCI-ThaiJo), Google Scholar และ‍กู‍เกิล (Google) ผลการสังเคราะห์ข้อมูลสามารถจำแนกองค์ความรู้ได้เป็น 5 ประเด็น ดังนี้ 1) ‍ช่วงเวลาที่มีการศึกษาวัจนกรรม แบ่งได้เป็น 4 ช่วง ได้แก่ช่วงบุกเบิก (พ.ศ. 2536–2545) ช่วง‍ขยายแนวคิด (พ.ศ. 2546–2555) ช่วงเติบโตพร้อมยุคดิจิทัล (พ.ศ. 2556–2565) และช่วงร่วมสมัย (พ.ศ.‍ 2566–2568) 2) แนวคิดทฤษฎีที่ใช้ศึกษางานวิจัยวัจนกรรม แบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม แนวคิดที่พบมากสุดคือ กลุ่มแนวคิดวัจนกรรมและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 3) ประเด็นที่ศึกษาวัจนกรรม แบ่งได้เป็น 8‍ กลุ่ม ประเด็นที่พบมากสุดคือ การศึกษาการแสดงและจำแนกวัจนกรรม 4) ประเภทของวัจนกรรมที่ศึกษา แบ่ง‍ได้เป็น 7 ประเภท ประเภทที่พบมากสุดคือ การศึกษาวัจนกรรมแบบภาพรวม และ 5) บริบทที่ใช้ในการวิเคราะห์ แบ่งได้เป็น 7 ประเภท ประเภทที่พบมากสุดคือ การสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ผล‍การศึกษาทำให้มองเห็นช่องว่างและแนวโน้มในการพัฒนางานวิจัยวัจนกรรมในอนาคต</p> กานต์ธิดา อ่อนเกตุพล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/280877 Mon, 08 Dec 2025 00:00:00 +0700 การปฏิเสธความรับผิดชอบ: การจำนนอย่างมักง่ายและการโทษผู้อื่นของตัวละครนิวแลนด์ อาร์เชอร์ในนวนิยายเรื่อง ดิเอจออฟอินโนเซนต์ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/282243 <p style="font-weight: 400;">นิวแลนด์ อาร์เชอร์ ตัวละครหลักในนวนิยาย เรื่อง ดิเอจออฟอินโนเซนต์ ของอีดิธ วอร์ตัน ที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อค.ศ. 1920 นำเสนอชายผู้เป็นอภิสิทธิ์ชนที่อยู่ท่ามกลางแนวปฏิบัติอันเสแสร้งของสังคมชั้นสูงในนิวยอร์กราว ค.ศ. 1870 แม้ว่าอาร์เชอร์จะมีข้อได้เปรียบในชีวิตมากมาย แต่เขาไม่เคยลงมือทำอะไรเพื่อไขว่ขว้าสิ่งที่ตนปรารถนาหรือเพื่อให้มีชีวิตตามที่ต้องการอย่างแท้จริง จากการศึกษาผลงานเชิงการตีความบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของนวนิยายเรื่องนี้ และบทความที่ศึกษาความเสแสร้งและความซับซ้อนทางจิตใจของอาร์เชอร์ รวมถึงนำทฤษฎีการอนุมานสาเหตุมาประกอบกัน บทความนี้นำเสนอตัวละครนิวแลนด์ อาร์เชอร์ ในมุมมองที่สะท้อนแนวโน้มอันน่าสลดใจของลักษณะของมนุษย์ที่ต้องการปลดเปลื้องตนจากความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นลักษณะความเป็นมนุษย์ที่ยึดติดตัวเขาไปตลอดชีวิต อาร์เชอร์ยอมจำนนอย่างมักง่ายต่อสถานการณ์ต่าง ๆ และเมื่อผลลัพธ์ของการเพิกเฉยทำให้เขาคับข้องใจ เขาปฏิเสธความรับผิดชอบด้วยการกล่าวโทษผู้หญิงที่เขาอ้างว่ารัก โทษภรรยาที่เป็นคนที่สมบูรณ์แบบตามบรรทัดฐานของสังคม หรือแม้กระทั่งโทษโชคชะตา นอกจากการสร้างตัวละครแล้ว การเลือกใช้รูปแบบการเล่าเรื่องตามขนบเดิมของวอร์ตันยังสะท้อนการยอมจำนนตามความคาดหวังของสังคมของอาร์เชอร์ รวมไปถึงการที่เขาละจากสิ่งนั้นไม่ได้ไปจนตลอดเรื่องอีกด้วย</p> พิชามญชุ์ บุญช่วย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/human_dru/article/view/282243 Mon, 08 Dec 2025 00:00:00 +0700