การสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อการบริหารงานของเทศบาลเมืองทุ่งสง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1)ศึกษาการสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการบริหารงาน 2) เปรียบเทียบการสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการบริหารงานเทศบาลเมืองทุ่งสงจำแนกตาม เพศ อายุ ประเภทกลุ่ม ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน สถานภาพ และระยะเวลาอาศัยอยู่ในเทศบาลเมืองทุ่งสง และ 3) ศึกษาแนวทางการส่งเสริมการสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการบริหารงานของเทศบาลเมืองทุ่งสง เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จำนวน 394 กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยตารางสำเร็จรูปของทาโร่ ยามาเน่ โดยสุ่มอย่างง่าย และผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 5 คน กำหนดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมีค่าความเที่ยง เทากับ .98 และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า1) การสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการบริหารงานของเทศบาลเมืองทุ่งสง ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) ประชาชนที่มีเพศ อายุ และสถานภาพสมรสแตกต่างกันมีการสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการบริหารงานเทศบาลเมืองทุ่งสงแตกต่างกัน และ 3) แนวทางการส่งเสริมการสื่อสารในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการบริหารงานของเทศบาลเมืองทุ่งสง ประกอบด้วย1) ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 2) สร้างความสัมพันธ์เสมือนคนในครอบครัว 3) เปลี่ยนการมีส่วนร่วมเป็นเชิงรุก 4) ใช้การสื่อสารทั้งแบบดั่งเดิมและสมัยใหม่ และ 5) ตรงกลุ่มเป้าหมายและชัดเจน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา แก้วเทพ. (2538). การพัฒนาแนววัฒนธรรมชุมชน. กรุงเทพฯ : สภาคาทอลิกแห่งประเทศไทย
เพื่อการพัฒนา.
พลเดช ปิ่นประทีป. (2559). ปฏิรูปสุขภาพ สู่สังคมสุขภาวะ. นนทบุรี : สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพ
แห่งชาติ.
พัชรินทร์ รัตนวิภา และคณะ. (2566). การจัดการการสื่อสารเครือข่ายร่วมปฏิบัติงานของสำนักงาน กกต. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(1), 146-166.
มานา ปัจฉิมนันท์. (2561). การวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคมกับการวิจัยด้านการสื่อสารในองค์การ. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 15(3), 5-18.
ยิ่งขวัญ กิตติโชติพันธุ์. (2563). แนวทางการพัฒนากระบวนการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงานจัดซื้อ กรณีศึกษา บริษัทผลิตเครื่องดื่มสำเร็จรูปแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
รัตนา เรือนไทย และ คณะ. (2566). การสื่อสารเพื่อบูรณาการด้านภาพลักษณ์ของเครือข่าย สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร. การค้นคว้าอิสระรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครอง, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.
วิไลลักษณ์ สุวจิตตานนท์. (2539). หลักและทฤษฎีการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: ภาควิชาการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาการจัดการ สถาบันราชภัฎเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์.
ศรัณย์ เจริญศิริ และ สรัญญา จุฑานิล. (2563). การจัดการเครือข่ายความร่วมมือสาธารณะเพื่อการ
พัฒนาท้องถิ่นกรณีเทศบาลตาบลในจังหวัดอุดรธานี. วารสารรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(2), 117-165.
สุธิตา หมายเจริญ. (2561). การสื่อสารกับสังคมเพื่อการสร้างเครือข่ายติดตามคนหายผ่านเฟซบุ๊กของศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, 7(1), 924-931.
สุรพงษ์ โสธนะเสถียร. (2556). ทฤษฎีการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: ระเบียงทอง.
สำนักทะเบียนราษฎร์ เทศบาลเมืองทุ่งสง. (2565). สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2566, จาก https://thungsongcity.go.th/content/general.
อดิพล เอื้อจรัสพันธุ์ และ ณัฐนิชา กรกิ่งมาลา. (2561). กลยุทธ์และเครือข่ายการสื่อสารเพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งกรณีศึกษาชุมชนหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ: วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์, 12(2), 221-247.
อธิพงษ์ ภูมีแสง และคณะ. (2565). เงื่อนไขและกระบวนการที่ก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารงานของ สมาคมไทย-เวียดนาม จังหวัดนครพนม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม, 12(2), 255-267.
Goldhaber, G.M. (1979). Organizational Communication. Dubeque Iowa : WM.C.Brown Publishers.
Rogers, C. R. (1986). Carl Rogers on the development of the person-centered approach. Person-Centered Review, 1(3), 257–259.