วารสารนิเทศศาสตร์ มสธ. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JOCASTOU <p><strong>วารสารนิเทศศาสตร์ มสธ.<br /></strong><strong>ISSN 3088-2052 (Online)</strong></p> <p><strong>กำหนดออก: </strong>2 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน และฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม </p> <p><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์: <br /></strong>วารสารฯ มีนโยบายรับตีพิมพ์บทความของนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย นักวิชาชีพ นวัตกร และบุคคลทั่วไปที่มีผลงานได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยเป็นวารสารที่นำเสนอบทความงานวิจัยและบทความทางวิชาการทุกลักษณะ ขอบข่ายครอบคลุมงานวิชาการทางด้านนิเทศศาสตร์ การสื่อสาร และนวัตกรรม เป็นวารสารวิชาการที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์วารสารวิชาการระดับชาติที่เผยแพร่ผลงานบทความวิชาการ (Article) หรือบทความวิจัย (Research Article) บทความวิจารณ์หนังสือ (Book Review) และบทความปริทัศน์ (Review Article) เพื่อเป็นแหล่งในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านนิเทศศาสตร์ ด้านวารสารศาสตร์ ด้านสื่อสารมวลชน ด้านการสื่อสารดิจิทัล ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการสื่อสาร และนวัตกรรม</p> <pre id="tw-target-text" class="tw-data-text tw-text-large tw-ta" dir="ltr" data-placeholder="คำแปล"><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์: </strong>ไม่เสียค่าใช้จ่าย</pre> th-TH jrcommartsstou@gmail.com (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กานต์ บุญศิริ) jrcommartsstou@gmail.com (นายภรัณวัฒน์ ทวีอิสราเมศร์) Sun, 31 Aug 2025 19:22:57 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาต้นแบบการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของชุมชนสร้างแก้วล้อมรักษ์ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JOCASTOU/article/view/280625 <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) กระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนา 2) การประเมินผลการดำเนินงานโครงการ และ3) ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนาต้นแบบการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม ผู้ให้ข้อมูลหลัก แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักผู้ที่มีบทบาทดำเนินงานโครงการ ประกอบด้วย ผู้นำชุมชน 10 คน แกนนำคุ้ม 6 คน ผู้นำกิจกรรมป้องกันสารเสพติด 4 คน อาสาสมัครสาธารณสุข 6 คน พยาบาลวิชาชีพ 3 คน และบุคลากรด้านสาธารณสุข 5 คน รวมจำนวน 34 คน และกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักที่เป็นกลุ่มผู้เสพและผู้ติดสารเสพติดที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 65 คน การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วสร้างเป็นข้อสรุป ส่วนการประเมินผลการดำเนินโครงการเป็นการวิเคราะห์ผลที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีของผู้เสพและผู้ติดสารเสพติดที่เข้าร่วมโครงการ<br /> ผลการวิจัยพบว่า 1) กระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาต้นแบบการบำบัดฟื้นฟูฯ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ (1) การสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักร่วมกันในระดับหมู่บ้าน (2) การสื่อสารเพื่อค้นหาพื้นที่อาสาเป็นพื้นที่เป้าหมาย (3) การสื่อสารในการทำประชาคมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม (4) การสื่อสารเพื่อสร้างศักยภาพชุมชน และ (5) การสื่อสารในกระบวน การบำบัดฟื้นฟู การเสริมพลัง และการติดตามต่อเนื่อง 2) การประเมินผลการดำเนินงานโครงการพบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ 65 คน สามารถหยุดเสพได้ต่อเนื่อง 8 ครั้ง จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 70.76 และ 3) ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญคือ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน การลดการตีตราผู้ใช้สารเสพติด และการสร้างเครือข่ายสนับสนุนทางสังคมที่เข้มแข็ง ดังนั้น การสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจึงเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาต้นแบบการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดให้ประสบความสำเร็จ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทพื้นที่ที่คล้ายคลึงกันได้</p> ภูบดินทร์ พรพันธุ์เจษฎา, ประภาพรรณ โคมหอม, หัสพร ทองแดง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ มสธ. https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JOCASTOU/article/view/280625 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 พื้นที่แห่งอารมณ์และการต่อต้านผ่านศิลปะการ์ตูนบนโซเชียลมีเดียไทย: การอ่านภาพและอารมณ์ทางการเมืองภายหลังรัฐประหาร https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JOCASTOU/article/view/280952 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของศิลปะการ์ตูนดิจิทัลบนสื่อสังคมออนไลน์ในฐานะสื่อทางการเมือง โดยเลือกกรณีศึกษาเพจ “ไข่แมว x” ซึ่งเป็นเพจการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชนไทยในช่วงปี พ.ศ. 2563 การวิจัยใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ โดยผสานการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงตีความและการวิเคราะห์เชิงธีม โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากการ์ตูนจำนวน 75 ภาพ ซึ่งคัดเลือกด้วยวิธีการแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ตามเกณฑ์ที่กำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัย ได้แก่ (1) เพื่อศึกษาศิลปะการ์ตูนดิจิทัลที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียในฐานะ “พื้นที่แห่งอารมณ์” (2) เพื่อวิเคราะห์อารมณ์ทางการเมืองที่สะท้อนผ่านศิลปะการ์ตูนดิจิทัล และ (3) เพื่ออธิบายโครงสร้างของความรู้สึกร่วมที่ปรากฏในศิลปะการ์ตูนดิจิทัล ผลการวิจัย พบว่า (1) ศิลปะการ์ตูนดิจิทัลมีการใช้กลวิธีเชิงสัญลักษณ์ การเสียดสี และการล้อเลียนวัฒนธรรมสมัยนิยมเพื่อวิพากษ์อำนาจรัฐ และสามารถทำหน้าที่เป็นกลไกจัดกรอบทางการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ (2) การ์ตูนดิจิทัลสะท้อนอารมณ์ทางการเมืองที่หลากหลาย ทั้งความโกรธ ความเศร้า ความหวังและการเย้ยหยันอันสอดคล้องกับแนวคิด Affective Publics ที่อารมณ์มีบทบาทสำคัญในการจัดระเบียบการสื่อสารทางการเมือง และ (3) ศิลปะการ์ตูนดิจิทัลสะท้อนโครงสร้างของความรู้สึกร่วมในสามระดับ ได้แก่ ความรู้สึกตกค้าง ความรู้สึกครอบงำ และความรู้สึกใหม่ที่กำลังก่อตัว ซึ่งแสดงให้เห็นพลวัตของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสังคมไทยสรุปได้ว่าศิลปะการ์ตูนดิจิทัลจากเพจ “ไข่แมว x” ไม่ได้เป็นเพียงสื่อสร้างสรรค์เพื่อความบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือทางวัฒนธรรมที่มีบทบาทสำคัญในการจัดกรอบวาทกรรม สร้างพื้นที่ทางอารมณ์และก่อรูปความรู้สึกใหม่ทางการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อหลอมพลวัตการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชนไทยในยุคดิจิทัล</p> ณธกร สุทธิรัตน์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ มสธ. https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JOCASTOU/article/view/280952 Sun, 05 Oct 2025 00:00:00 +0700