วารสารสภาวิชาชีพบัญชี https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JFAC <table width="100%"> <tbody> <tr> <td style="vertical-align: text-top; padding: 0px 15px; background: #b5e2f7; border: #b5e3f8; color: #006fbb; line-height: 2;" width="70%"> <p> </p> <p> การสำรวจรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ พอสรุปประเด็นสำคัญที่นักบัญชีไทยควรเตรียมตัวในช่วงปี 2025–2026 ได้แก่ 1. การรายงานความยั่งยืน (ESG) และการเตรียมพร้อมต่อมาตรฐานใหม่ (IFRS S1, S2) 2. การเตรียมใช้มาตรฐาน IFRS 18 และ IFRS 19 / ปรับระบบบัญชีให้สอดคล้องสากล 3. การใช้เทคโนโลยีใหม่ – โดยเฉพาะ AI, Cloud, Automation 4. การควบคุมความเสี่ยงด้านไซเบอร์และข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และ 5. การพัฒนาทักษะคน / ดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพบัญชี</p> <p> สืบเนื่องจากการพาผู้เข้าอบรมโครงการวุฒิบัตรวิชาชีพด้านการบัญชีนิติวิทยา รุ่นที่ 5 ไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ พบว่าคนรุ่นใหม่สนใจวิชาชีพบัญชีน้อยลง ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาของประเทศไทยเช่นกัน ทางออกคือ องค์กรต้องปรับภาพลักษณ์ “นักบัญชี” ให้ดูทันสมัย สามารถทำงานกับ AI ได้ เข้าใจธุรกิจ มี work-life balance สำนักงานบัญชีและผู้สอบบัญชีต้องลงทุนใน upskilling (e.g. ESG, tech, ภาษาอังกฤษ), เสริมแรงจูงใจในการ retention คนเก่ง ตลอดจนเตรียมนักบัญชีรุ่นใหม่ให้มีทักษะ “beyond accounting” เช่น การสื่อสาร, การวิเคราะห์, จริยธรรม, เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับยุคสมัย.</p> <p> ขอฝากให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการครับ</p> </td> <td style="vertical-align: text-top; padding: 0px 10px;" width="30%"> <div style="vertical-align: text-top; display: block; width: 100%; background-color: #0097de; color: #fff; text-align: center; padding: 10px; font-size: 17px;"><span style="color: rgba(0, 0, 0, 0.84);"><span style="font-size: 14px;">สาส์นจากบรรณาธิการ <br />ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย ศุภธาดา</span></span></div> <img style="max-width: 100%;" src="https://so02.tci-thaijo.org/public/site/images/praphatz/307108.jpg" /><br /><a style="display: block; width: 100%; background-color: #007f91; color: #fff; text-align: center; padding: 10px; font-size: 17px;" href="https://www.tci-thaijo.org/index.php/JFAC/editor-talk"><span style="color: rgba(0, 0, 0, 0.84);"><span style="font-size: 14px;">อ่านเพิ่มเติม &gt;&gt; </span></span></a></td> </tr> </tbody> </table> สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Thailand Federation of Accounting Professions) th-TH วารสารสภาวิชาชีพบัญชี 2672-9776 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารสภาวิชาชีพบัญชี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสภาวิชาชีพบัญชี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสภาวิชาชีพบัญชี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำข้อมูลทั้งหมดหรือบางส่วนไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารสภาวิชาชีพบัญชี&nbsp;ก่อนเท่านั้น</p> ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อระดับการตระหนักรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JFAC/article/view/279569 <p> การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อระดับการตระหนักรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทาง<br />ไซเบอร์ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ปัจจัยที่ศึกษาประกอบด้วย (1) ด้านความรู้พื้นฐาน (2) ด้านการฝึกอบรม (3) ด้านทัศนคติ และ (4) ด้านพฤติกรรม เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ โดยเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีในประเทศไทยจำนวน 305 คน ผ่านแบบสอบถามระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง มกราคม 2568 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน กำหนดระดับนัยสำคัญที่ 0.05</p> <p> ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีระดับการตระหนักรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านความรู้พื้นฐาน และการฝึกอบรมเป็นปัจจัยที่ได้รับความสำคัญมากที่สุด รองลงมาคือด้านทัศนคติ และด้านพฤติกรรม ตามลำดับ นอกจากนี้ ข้อมูลทั่วไปด้านประชากรศาสตร์ ได้แก่ อายุ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ประเภทหน่วยงานที่สังกัด สาขาที่เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการทำงานมีผลต่อระดับการตระหนักรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่เพศและระดับการศึกษาไม่มีผล การศึกษานี้เสนอให้มีการพัฒนาหลักสูตรและโปรแกรมฝึกอบรมด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี บูรณาการความรู้ด้านไซเบอร์ในหลักสูตรบัญชีระดับปริญญาตรี กำหนดให้ความรู้ด้านไซเบอร์เป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดใบอนุญาต สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการป้องกันไซเบอร์ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสภาวิชาชีพบัญชี สถาบันการศึกษา และหน่วยงานรัฐ เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เหมาะสมกับบริบทของวิชาชีพบัญชีไทย</p> <p> </p> พรพรรณ วรรณศิริ วชิระ บุณยเนตร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสภาวิชาชีพบัญชี 2025-09-30 2025-09-30 7 20 4 37 บทบาทความสามารถในการทำกำไรต่อค่าตอบแทนของพนักงานและผู้บริหาร ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่ม SET100 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JFAC/article/view/279905 <p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการทำกำไรกับค่าตอบแทนของพนักงานและผู้บริหารของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET100) ในปีพ.ศ. 2563 ถึง ปีพ.ศ 2566 จำนวน 284 ตัวอย่าง โดยใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการถดถอยเชิงพหุคูณเพื่อทดสอบสมมติฐาน ผลการศึกษาพบความสัมพันธ์เชิงบวกของความสามารถในการทำกำไรที่วัดด้วยอัตรากำไรขั้นต้นกับค่าตอบแทนของพนักงานโดยมีอัตราคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนเพศหญิงเป็นตัวแปรกำกับ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 นอกจากนี้ความสามารถในการทำกำไรที่วัดด้วยอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับค่าตอบแทนของผู้บริหารที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 อย่างไรก็ตามความสามารถในการทำกำไรที่วัดด้วยอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์เชิงลบกับค่าตอบแทนของผู้บริหารโดยมีอัตราคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนเพศหญิงเป็นตัวแปรกำกับ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 ผลการวิจัยนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติการ โดยช่วยให้นักลงทุนเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการทำกำไรกับค่าตอบแทนของพนักงานและผู้บริหารในกลุ่มบริษัท SET100 ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการประเมินศักยภาพขององค์กร ขณะเดียวกัน ผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านค่าตอบแทนและกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคล อันจะส่งเสริมให้พนักงานตระหนักในบทบาทหน้าที่ และมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน</p> weerawan siripong รจนา ขุนแก้ว สิริมา สนิเห สุฑามาศ อินทร์สำราญ ชนิภา วิชยาวจี วราธิป เพ็ชรพญา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสภาวิชาชีพบัญชี 2025-09-30 2025-09-30 7 20 38 57 อิทธิพลของโครงสร้างเงินทุนต่อผลการดำเนินงาน ผ่านมูลค่ากิจการของบริษัทจดำทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JFAC/article/view/279832 <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาโครงสร้างเงินทุนที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานผ่านมูลค่ากิจการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 - 2567 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ไม่รวมกลุ่มธุรกิจการเงิน รวมทั้งสิ้น 936 รายปีรายบริษัท (firm-year) ถูกวิเคราะห์ทางสถิติการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling : SEM) การวิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis) ผลการศึกษาพบว่า โครงสร้างเงินทุนมีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์และ Tobin’s Q มูลค่ากิจการมีอิทธิพลเชิงบวกกับอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์และTobin’s Q โครงสร้างเงินทุนมีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ผ่านมูลค่ากิจการ โครงสร้างเงินทุนมีอิทธิพลเชิงบวกกับ Tobin’s Q ผ่านมูลค่ากิจการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจการมีการก่อหนี้จากแหล่งภายนอกเพิ่มขึ้นจะทำให้กิจการมีต้นทุนของเงินทุนที่เกิดจากการก่อหนี้สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้สูงกว่าผลการดำเนินงานและมูลค่ากิจการที่สามารถสร้างได้ นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมมีความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการผลการดำเนินงานและมูลค่ากิจการ โดยคาดว่าองค์กรต่างๆ จะสามารถนำผลการศึกษานี้ไปใช้ในไปวางแผนโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลการดำเนิน อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชีและมูลค่ากิจการ</p> chureeporn Meangjun เพ็ญจันทร์ แสงอาวุธ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสภาวิชาชีพบัญชี 2025-10-22 2025-10-22 7 20 58 76