วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ <center> <h4><strong>ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์</strong><strong>วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต</strong></h4> <h4><a style="color: #800080;">วารสารฯ ของเราเป็นวารสารวิชาการสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์</a></h4> <h4>จัดอยู่ในฐานข้อมูลของ TCI กลุ่มที่ 2</h4> <h4><a href="https://www.kmutt.ac.th/jif/Impact/detail.php?yr=2561&amp;issn=2630-0443">ค่า IF ประจำปี 2561 = 0.663</a></h4> </center> <p><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์</strong></p> <p> วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต มีนโยบายในการรับตีพิมพ์บทความทางวิชาการ และบทความวิจัย ที่มีคุณภาพในสาขา<strong>มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์</strong> ที่มีสาระครอบคลุมวิทยาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คุณภาพชีวิต การท่องเที่ยว เกษตรและอาหาร วิสาหกิจชุมชน สาธารณสุข ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การศึกษา การจัดการระบบชุมชน โดยให้ความสำคัญในด้านการทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน และเผยแพร่ผลงานวิจัยของนักวิชาการ และบุคคลทั่วไปที่มีคุณภาพ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะเพื่อการพัฒนาชุมชนและเพิ่มคุณภาพชีวิต</p> <p>ISSN: 3057-1839 (Print)</p> <p>ISSN: 3057-1847 (Online)</p> <p> </p> <p><strong>วัตถุประสงค์</strong></p> <p> เพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่ผลงาน วิทยาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง</p> <p> </p> <p><strong>การพิจารณาบทความ</strong></p> <p>บทความที่ผ่านกระบวนการส่งเข้ามาเพื่อรอการพิจารณาตีพิมพ์ทุกบทความต้องผ่านการพิจารณาจาก<strong>ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นบุคคลภายนอกจากหลากหลายสถาบัน อย่างน้อย 3 ท่าน/บทความ</strong> โดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เขียนจะไม่ทราบข้อมูลของกันและกัน (Double-blind peer review)</p> <p><strong> </strong></p> <p> </p> <p><strong>ประเภทของบทความ</strong></p> <p>บทความวิจัย (Research Article)</p> <p>บทความวิชาการ (Original Paper)</p> <p> </p> <p><strong>ผู้ให้การสนับสนุน</strong></p> <p>วารสารฯ ได้รับการสนับสนุนจาก<br />สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.)</p> <p> </p> <p><strong>กำหนดการตีพิมพ์วารสารฯ ทุกๆ 4 เดือน<br /></strong>(มกราคม - เมษายน, พฤษภาคม - สิงหาคม, กันยายน - ธันวาคม)</p> <p>โดยจะนำเสนอในรูปแบบ E-journal บนเว็บไซต์วารสารฯ (ThaiJO) <br />ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม – เมษายน<br />ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม<br />ฉบับที่ 3 เดือนกันยายน – ธันวาคม</p> <p> </p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์</strong></p> <p><em>" ไม่มีค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์บทความ"</em></p> th-TH <p>กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจและแก้ไขบทความที่เสนอเพื่อตีพิมพ์ในวารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต</p> <p>บทความหรือข้อความคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต เป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะคณะผู้จัดทำไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่ใช่ความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยและคณะผู้จัดทำ / บรรณาธิการ</p> journals.unrn@gmail.com (ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สัญชัย จตุรสิทธา) journals.unrn@gmail.com (นางสาวณัฐริกา อุตสาใจ) Sun, 31 Aug 2025 19:52:08 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การประเมินผลตอบแทนทางสังคมผ่านกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเมืองสร้างสรรค์ ด้านอาหาร จังหวัดเพชรบุรี https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/276833 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลผลิตตามเป้าหมายของโครงการกิจกรรมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร และการประเมินผลตอบแทนทางสังคมผ่านกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจังหวัดเพชรบุรี โดยเป็นการวิจัยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งเป็นวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพที่เน้นการแก้ปัญหาในจังหวัดเพชรบุรี โดยศึกษาข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิ ใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเป็นแนวคำถามในการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 25 คน ร่วมกับการศึกษาข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิ ได้แก่ การวิจัยเอกสาร ผลการศึกษาพบว่า โครงการฯ มีประสิทธิผล เนื่องจากผลผลิตที่ได้ของโครงการมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ จำนวน 5 กิจกรรม สำหรับการประเมินผลตอบแทนทางสังคมผ่านกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ จังหวัดเพชรบุรี มีผลสัมฤทธิ์เนื่องจากพิจารณาจากความคุ้มค่าในการดำเนินงานโครงการ โครงการฯ มีความคุ้มค่า จากผลการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางสังคม มีค่าเท่ากับ 1 : 3.06 หมายความว่า เงินงบประมาณ 1 บาท ที่ใช้ในการดำเนินโครงการ ให้ผลตอบแทนกลับมาในรูปของรายได้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.06 บาท ในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้า</p> ปริญญา นาคปฐม, กฤษฎิพัทธ์ พิชญะเดชอนันต์, สกุล ศิริกิจ, คัชพล จั่นเพชร, พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/276833 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยสำคัญในการธำรงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวผู้สูงวัย: กรณีศึกษาตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/277324 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการธำรงอัตลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสำหรับนักท่องเที่ยวสูงวัยในตลาดบางหลวง ร.ศ.122 อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (mixed methods) ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณผ่านการใช้แบบสอบถามและการวิจัยเชิงคุณภาพผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้พักอาศัยในพื้นที่และนักท่องเที่ยวสูงวัย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ และการวิเคราะห์ธีม (thematic analysis) ผลการวิจัยพบว่าการธำรง<br />อัตลักษณ์ด้านประเพณีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (M = 4.77, S.D. = 0.76) รองลงมาเป็นด้านความเชื่อ (M = 4.71, S.D. = 0.78) และด้านภาษาและชีวิตความเป็นอยู่ (M = 4.58, S.D. = 0.50) โดยเชื้อชาติของบิดามารดามีอำนาจในการพยากรณ์มากที่สุด (β = 0.614, <em>P</em> &lt; 0.001) นอกจากนี้ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงการรักษาวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมชุมชนและการใช้ภาษาท้องถิ่นเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความผูกพันในชุมชน ส่งผลต่อการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสำหรับผู้สูงวัยที่ผสมผสานระหว่างการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อขยายโอกาสให้ผู้สูงวัยสามารถเข้าถึงประสบการณ์ทางวัฒนธรรมได้มากขึ้น</p> ทมนี สุขใส, เอนก นามขันธ์, อัญชลี หิรัญแพทย์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/277324 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การยกระดับอาหารท้องถิ่นสู่ซอฟท์พาวเวอร์ของชุมชนไทญ้อบ้านโพน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมอาหารวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านสื่อดิจิทัล https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275860 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์ศักยภาพเชฟชุมชนไทญ้อบ้านโพน 2) ยกระดับอาหารท้องถิ่นสู่ ซอฟท์พาวเวอร์ของชุมชนไทญ้อบ้านโพน และ 3) ส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารวัฒนธรรมวิถีไทญ้อผ่านสื่อดิจิทัล การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสนทนากลุ่ม จำนวน 12 คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาศักยภาพเชฟชุมชนไทญ้อบ้านโพน พบว่า ชุมชนไทญ้อ บ้านโพนมีศักยภาพด้านวัตถุดิบและภูมิปัญญาในการผลิตอาหารพื้นถิ่น แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลอย่างยั่งยืน ผลการยกระดับอาหารท้องถิ่นสู่ซอฟท์พาวเวอร์ ผ่านกระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มทางวัฒนธรรม พบว่า อาหารสามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชนผ่านเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับประเพณีและวิถีชีวิต และผลการส่งเสริมภาพลักษณ์ผ่านสื่อดิจิทัลผ่านการสื่อสารดิจิทัล พบว่า การนำเสนอข้อมูลผ่าน ภาพถ่าย วิดีโอ และสื่อดิจิทัลบนสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความตระหนักรู้และยกระดับอาหารท้องถิ่นของชุมชนให้กลายเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น</p> นิสากร พุทธวงศ์, คงฤทธิ์ รีวงษ์, รัตนา สุวรรณทิพย์, บุญธรรม ข่าขันมะณี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275860 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 สมรรถนะการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัลของนักศึกษา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/277280 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์องค์ประกอบสมรรถนะการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัลของนักศึกษา 2) ตรวจสอบความกลมกลืนขององค์ประกอบสมรรถนะการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัลของนักศึกษา <br />เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี เก็บข้อมูล 2 รูปแบบ การวิจัยเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้แทนจากชุมชน 2 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ นักวิชาการด้านการบริหารธุรกิจ นักวิชาการด้านบริหารการศึกษา นักวิชาการด้านการตลาด นักวิชาการด้านการเงิน และการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ กับนักศึกษาวิทยาลัยชุมชน จำนวน 521 คน โดยการสุ่มแบบชั้นภูมิ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม LISREL ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบสมรรถนะการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัลของนักศึกษามี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) ชุดทักษะของผู้ประกอบการ (2) ชุดความรู้ของผู้ประกอบการ (3) กรอบความคิดของผู้ประกอบการ และ (4) การปฏิบัติของผู้ประกอบการ 2) โมเดลองค์ประกอบสมรรถนะการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัลของนักศึกษา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ดัชนีทุกตัวผ่านเกณฑ์การประเมินความสอดคล้องในระดับดี ผลการตรวจสอบดัชนีความสอดคล้องพิจารณาค่า p-value = 0.00 Chi-square/df = 1.689 GFI = 0.967 AGFI = 0.954 SRMR = 0.043 และ RMSEA = 0.036</p> ศศิพิสุทธิ์ หงษ์สมบัติ, สุภาวดี อิสณพงษ์, รพีพรรณ พงษ์อินทร์วงศ์, ศศิพิมพ์มาศ หงษ์สมบัติ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/277280 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขในชุมชน: แนวทางการส่งเสริมอนามัยครอบครัวผ่านการตรวจวัดคุณภาพน้ำอุปโภคบริโภค (นวัตกรรมเพื่อการเฝ้าระวังสุขภาพชุมชน) ชุมชนสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275612 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุข และส่งเสริมอนามัยครอบครัวผ่านการตรวจวัดคุณภาพน้ำอุปโภคบริโภคในชุมชนสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขจำนวน 40 คน และครัวเรือนในชุมชน 120 ครัวเรือน ซึ่งคัดเลือกโดยวิธีการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือวิจัย ได้แก่ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบสอบถามความรู้ แบบประเมินพฤติกรรม และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งาน เครื่องมือทุกชุดผ่านการตรวจสอบคุณภาพ โดยมีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง 0.72–0.85 และค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.82 ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองช่วยเพิ่มศักยภาพในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำของอาสาสมัครสาธารณสุขอย่างมีนัยสำคัญ อาสาสมัครสามารถตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ คุณภาพน้ำอุปโภคบริโภคในชุมชนได้รับการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่มีน้ำไม่ได้มาตรฐานร้อยละ 65.4 ลดลงเหลือร้อยละ 8.3 หลังการใช้ชุดการเรียนรู้ นอกจากนี้ อัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหารในชุมชนลดลงถึงร้อยละ 78.3 และนวัตกรรมชุดการเรียนรู้ได้รับการประเมินประสิทธิภาพในระดับดีเยี่ยม ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.85 จากคะแนนเต็ม 5 ทั้งยังสามารถขยายผลไปยังชุมชนใกล้เคียงได้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขและส่งเสริมสุขภาพชุมชนอย่างยั่งยืน</p> ฉัตรศิริ วิภาวิน ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275612 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยบ้านทุ่งฮ้าง ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275905 <p class="Default" style="text-align: justify; text-justify: inter-cluster;"><span lang="TH" style="font-size: 14.0pt; color: windowtext;">การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ </span><span style="font-size: 14.0pt; color: windowtext;">1) <span lang="TH">พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ </span>2) <span lang="TH">เสริมสร้างการเป็นผู้ประกอบการชุมชนของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยบ้านทุ่งฮ้าง ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วย แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและการสนนากลุ่มกับสมาชิก จำนวน 14 ราย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน พบว่า กลุ่มสามารถปรับโครงสร้างการบริหารใหม่อย่างมีส่วนร่วม โดยมีการวางแผนการผลิตและจัดซื้อวัตถุดิบ การหมุนเวียนงานในฝ่ายผลิต ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความร่วมมือ และผลการเสริมสร้างการเป็นผู้ประกอบการชุมชน พบว่า สมาชิกกลุ่มผลิตอาหารสุกรต้นทุนต่ำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เลี้ยงและขายสุกรทั้งแม่พันธุ์และหมูขุนได้เป็นอย่างดี กลุ่มพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเป็นผู้ประกอบการ โดยสร้างแพลตฟอร์มประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ สร้างการรับรู้และแรงจูงใจในการทำงานร่วมกัน จัดทำระบบบันทึกข้อมูลทางบัญชีแบบมีส่วนร่วม เพื่อควบคุมต้นทุน ตรวจสอบรายรับ รายจ่าย และสื่อสารในกลุ่ม ส่งผลให้เกิดระบบการบันทึกบัญชีของกลุ่มที่สร้างความเข้าใจด้านการเงินการบัญชีร่วมกัน</span></span></p> ดารารัตน์ ธาตุรักษ์, ปัญจพร ศรีชนาพันธ์, ณัฐนรี ทองดีพันธ์, พรรณษา เรือนน้อย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275905 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนาชุมชนในภาวะชุมชนไร้รูปแบบ: แนวคิดทฤษฎีและปฏิบัติการ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/274080 <p>การเกิดขึ้นของชุมชนไร้รูปแบบ อันประกอบไปด้วย ชุมชนที่ปราศจากความสัมพันธ์ใกล้ชิด และชุมชนที่ไม่ได้ยึดโยงผ่านสถานที่ทำให้ต้องกลับไปทบทวนแนวคิดทฤษฎีก่อนหน้า การขยับขยายนิยามของชุมชนทำให้ปฏิบัติการผ่านชุมชนไร้รูปแบบปรากฏตัวได้มากขึ้น บทความนี้มุ่งสำรวจชุมชนไร้รูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะชุมชนที่มีรูปแบบและโครงสร้างต่างไปจากชุมชนดั้งเดิม และแม้ว่านิยามการพัฒนาชุมชนจะยังขาดความชัดเจน แต่การบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก็ยังคงเป็นเป้าหมายของงานพัฒนาชุมชน แนวคิดผู้ประกอบการพลเมืองจึงถูกนำเสนอในฐานะแนวทางการพัฒนาชุมชนแบบใหม่ที่จะบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชุมชนไร้รูปแบบ กรณีศึกษา 3 เรื่องในบริบทสังคมไทยใช้อธิบายการทำงานของผู้ประกอบการพลเมืองในการทำงานกับชุมชนที่ปราศจากความสัมพันธ์ใกล้ชิด และชุมชนที่ไม่ได้ยึดโยงผ่านสถานที่</p> ชลนภา อนุกูล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/274080 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 ศักยภาพด้านการบริหารจัดการและการจัดทำบัญชี ของวิสาหกิจชุมชนที่นำไปสู่ความสำเร็จ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275055 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการและด้านการจัดทำบัญชีของวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรางวัลวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัดประจำปี พ.ศ. 2565 และ ปี พ.ศ. 2566 การวิจัยนี้ใช้วิธีการศึกษาแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างกับประธาน คณะกรรมการ และสมาชิกของวิสาหกิจชุมชน จำนวน 21 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มประธาน คณะกรรมการ และสมาชิกของวิสาหกิจชุมชน จำนวน <br />195 ราย วิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการสถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษาศักยภาพการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการ พบว่า ศักยภาพด้านการบริหารจัดการในภาพรวมมีการดำเนินงาน/ปฏิบัติอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ย 4.38 เมื่อพิจารณารายประเด็น พบว่ามีการดำเนินงาน/ปฏิบัติอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยการมีส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ 4.47 รองลงมาคือ การผลิตสินค้าหรือบริการ มีค่าเฉลี่ย 4.44 การบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ย คือ 4.43 และ การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ มีค่าเฉลี่ย 4.18 สำหรับศักยภาพด้านการจัดทำบัญชีในภาพรวม มีการดำเนินงาน/ปฏิบัติอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.18 </p> วัชรินทร์ อรรคศรีวร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275055 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนากระบวนการย้อมสีเส้นฝ้ายจากวัสดุธรรมชาติของกลุ่มอาชีพทอผ้ามัดหมี่บ้านสนามบิน ตำบลอุ่มจาน อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275511 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจทรัพยากรธรรมชาติและศึกษากระบวนการย้อมสีเส้นฝ้ายด้วยวัสดุธรรมชาติที่เหมาะสมของบ้านสนามบิน ตำบลอุ่มจาน อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร โดยใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ประชากรและกลุ่มเป้าหมาย รวม 20 ราย ประกอบด้วย คณะกรรมการกลุ่มอาชีพทอผ้ามัดหมี่บ้านสนามบิน ผู้นำชุมชน ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มจาน และผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ผลการวิจัยพบว่า 1) แหล่งทรัพยากรธรรมชาติของบ้านสนามบิน ที่มีวัสดุธรรมชาติสามารถนำมาใช้ในการย้อมสีเส้นฝ้าย แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ วัสดุธรรมชาติภายในชุมชน วัสดุธรรมชาติที่พบในป่าชุมชน และวัสดุที่พบบริเวณแหล่งน้ำสาธารณะ 2) กระบวนการย้อมสีเส้นฝ้ายด้วยวัสดุธรรมชาติที่เหมาะสมของบ้านสนามบิน มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ กระบวนการเตรียมเส้นฝ้ายก่อนการย้อมสี กระบวนการเตรียมสีย้อมเส้นฝ้ายจากวัสดุธรรมชาติ กระบวนการย้อมสีเส้นฝ้ายจากวัสดุธรรมชาติ กระบวนการย้อมสารช่วยติดสี และเส้นฝ้ายย้อมสีจากวัสดุธรรมชาติ</p> อุทุมพร หลอดโค ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275511 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดออนไลน์แบบมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพยากรท้องถิ่น https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275983 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพบริบท และความต้องการของชุมชนตำบลบ้านเกาะ อำเภอ<br />บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2) พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากทรัพยากรท้องถิ่นที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชุมชนและการตลาดออนไลน์แบบมีส่วนร่วมกับชุมชน และ 3) ถ่ายทอดองค์ความรู้จากงานวิจัยสู่ชุมชน เก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสอบถาม กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านเกาะ วิสาหกิจชุมชนบ้านเกาะพัฒนา และบุคคลในชุมชนที่มีความสมัครใจ จำนวน 30 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) ผลการวิจัย พบว่า 1) ชุมชนประสบปัญหาการขาดแนวทางจัดการวัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อเพิ่มมูลค่า และทักษะด้านการตลาดออนไลน์ จึงมีความต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นใช้วัตถุดิบในพื้นที่และเแสดงถึงเอกลักษณ์ของชุมชน รวมถึงเสริมความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ 2) ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบขนมโมจิน้ำนมข้าวไส้ข้าวตู โดยใช้ข้าวซึ่งเป็นทรัพยากรท้องถิ่นเป็นวัตถุดิบหลักแสดงถึงเอกลักษณ์ของชุมชน และ 3) ผลการถ่ายทอดความรู้จากงานวิจัยสู่ชุมชน พบว่า การถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการทำตลาดออนไลน์แก่ชุมชนส่งผลให้มีความรู้ความเข้าใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก</p> ดาวรถา วีระพันธ์, จุรีมาศ ดีอำมาตย์, ฐิติมา เกศาหอม, ดวงเดือน วัฏฏานุรักษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/275983 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 ส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนฟุตบอล ของผู้ปกครองในเขตบางนา: กรณีศึกษานักกีฬาเยาวชนเพศหญิง https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/274264 <p>งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ ส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนฟุตบอลของผู้ปกครองในเขตบางนา กรณีศึกษานักกีฬาเยาวชนเพศหญิง การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนฟุตบอลของผู้ปกครอง ในเขตบางนา กรณีศึกษานักกีฬาเยาวชนเพศหญิง เป็นการวิจัยเชิงปริมาณมีกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปเรียนฟุตบอลในเขตบางนา ที่อาศัยอยู่เขตบางนา จำนวน 400 คน ใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายโดยการใช้แบบสอบถามออนไลน์ ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนฟุตบอลของผู้ปกครอง กรณีศึกษานักกีฬาเยาวชนเพศหญิง พบว่า การตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนฟุตบอล ร้อยละ 62.60 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการพยากรณ์เท่ากับ ± .495 โดยปัจจัยที่มีอิทธิพล คือ ด้านกระบวนการในการให้บริการ ด้านผลิตภัณฑ์ และด้านบุคลากร</p> ศุภวุฒิ อภินนท์กูล, อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์, สุภกร ตันวราวุฒิชัย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/274264 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ยางรัดผมสครันชี่ ที่เป็นมิตรต่อเส้นผมและสิ่งแวดล้อม https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/276506 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางรัดผมสครันชี่ที่เป็นมิตรต่อเส้นผมและสิ่งแวดล้อม ศึกษาความพึงพอใจและปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ยางรัดผมสครันชี่ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ยางรัดผมสครันชี่กับนิสิตและบุคลากรหญิงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวน 100 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบจำแนกสามทาง ผลการวิจัยพบว่า 1) ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ยางรัดผมสครันชี่ จำนวน 4 รูปแบบ โดยทำจากเศษผ้า 2 ชนิด ใน 2 ขนาด รวมทั้งสิ้น 16 ชิ้นงาน 2) ผู้บริโภคมีความพึงพอใจยางรัดผมสครันชี่ทุกรูปแบบในระดับมาก โดยแบบสองชั้นได้รับความพึงพอใจสูงสุด รองลงมาคือแบบกุ๊นเชือก แบบติดซิป และแบบธรรมดา และ 3) รูปแบบของยางรัดผมสครันชี่และชนิดผ้า มีผลต่อความพึงพอใจของผู้บริโภค (<em>P</em> ≤ 0.05) ส่วนขนาดของยางรัดผมสครันชี่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองปัจจัยและสามปัจจัย ไม่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้บริโภค (<em>P</em> &gt; 0.05) ผลการวิจัยสามารถใช้เป็นแนวทางให้แก่ชุมชนที่มีเศษผ้านำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยางรัดผมสครันชี่ เพื่อเพิ่มรายได้และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม</p> นฤพร บุตรเพชร, วัลภา แต้มทอง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JCDLQ/article/view/276506 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700