ผลกระทบของสภาพแวดล้อมธุรกิจและความคาดหวังในการทำงานที่มีต่อจรรยาบรรณวิชาชีพและความน่าเชื่อถือในการทำงาน ของนักบัญชีธุรกิจ SMEs ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย
Abstract
The purpose of this study was to verify the effects of business environment and working expectancy on code of ethics and reliability of SMEs accountant in northeastern Thailand which business environment and expected working were independent variables affecting code of ethics and reliability in working. The results of the study indicate that: 1) the business environment, politics and economics, social and technology positively affected job code of ethics; 2) the working expectancy, an opportunity for achievement in career and valence return positively affected job code of ethics; and 3) the code of ethics, capability and performance standards, responsibility for customers and keeping confidentialness, responsibility for shareholder partnership or person positively affected reliability in working. Thus, this research information are collected from 400 SMEs accountants in northeastern Thailand, total period collection 76 days conducted by purposive sampling technique. The statistics used for analyzing the collected data were F-test multiple correlation analysis and multiple regression analysis.
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบผลกระทบสภาพแวดล้อมธุรกิจ ความคาดหวังในการทำงานที่มีต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ ความน่าเชื่อถือในการทำงานของนักบัญชีธุรกิจ SMEs ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย ซึ่งสภาพแวดล้อมธุรกิจ ความคาดหวังในการทำงานได้ถูกกำหนดให้เป็นตัวแปรอิสระที่มีผลกระทบต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ และความน่าเชื่อถือในการทำงาน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพแวดล้อมธุรกิจ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านเทคโนโลยี มีผลกระทบเชิงบวกต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ 2) ความคิดหวังในการทำงาน ด้านโอกาสที่จะได้รับ ความสำเร็จในอาชีพในอนาคต และคุณค่าของผลตอบแทนที่ได้รับ มีผลกระทบเชิงบวกต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ 3) จรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านความรู้ความสามารถและมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ด้านความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการและการรักษาความลับ ด้านความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือบุคคล หรือนิติบุคคลที่ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ให้ มีผลกระทบเชิงบวกกับความน่าเชื่อถือในการทำงาน โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักบัญชีธุรกิจ SMEs ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย จำนวน 400 คน รวมระยะเวลาในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งสิ้น 76 วัน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ F-test การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบพหุคูณ การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ