TY - JOUR AU - ผศ.ดร., พระครูประวิตรวรานุยุต PY - 2016/12/28 Y2 - 2024/03/29 TI - การสำรวจวิเคราะห์ความคิดเห็นการบริหารงานบุคคลใน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ JF - วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา JA - J. Buddh. Stud. VL - 7 IS - 2 SE - บทความวิจัย DO - UR - https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JBS/article/view/209311 SP - AB - <p class="p1"><span class="s1">การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหาร</span>บุคคล 3 ด้าน คือ การสรรหาละการคัดเลือก การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร การประเมินผลการทำงานเพื่อพิจารณาความดีความชอบของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่และวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน เพื่อศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรฝ่ายบริหารและอาจารย์/เจ้าหน้าที่ และการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ปัญหาการบริหารงานบุคคลทั้ง 3 ด้าน<span class="Apple-converted-space">&nbsp; </span>ดำเนินการรวบรวมโดยการแจกแบบสอบแก่บุคลากรจำนวน 51 ชุด แบ่งเป็นผู้บริหาร 20 ชุด และอาจารย์/เจ้าหน้าจำนวน 31 ชุด แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจงนับความถี่ ค่าร้อยละ และการบรรยายวิเคราะห์แนวทางการแก้ปัญหาการบริหารงานบุคคล</p><p class="p1">ผลการวิจัยสรุปได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายอาจารย์/เจ้าหน้าที่ พบว่ามีความคิดเห็นแยกออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1) ประเด็นความเห็นแย้งกันเนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีทัศนคติและมุมมองที่แตกต่างกัน 2) ประเด็นความเห็นสอดคล้องกัน และ 3) ประเด็นความเห็นเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งสามารถสรุปประเด็นปัญหาได้ 3 ปัญหาหลักๆ ดังนี้</p><p class="p1">1) ปัญหาการสรรหาและการคัดเลือก เช่น นโยบายและเป้าหมายในการวางแผนกำลังคนไม่ชัดเจน ผู้บริหารขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การใช้ระบบอุปถัมภ์<span class="Apple-converted-space">&nbsp; </span>คุณสมบัติของบุคลากรไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ การประชาสัมพันธ์เพื่อการสรรหาจำกัดตัวในวงแคบ การทดสอบความรู้ในการคัดเลือกไม่ได้มาตรฐาน การพิจารณาเลื่อนขั้นไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอน การทดลองปฏิบัติงานไม่เป็นระบบ เป็นต้น</p><p class="p1">2) ปัญหาการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร เช่น กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรยังไม่เพียงพอ ไม่มีการสำรวจความคิดเห็นบุคลากรก่อนการฝึกอบรม ช่วงเวลาในการฝึกอบรมไม่เหมาะสม ไม่ทราบผลสัมฤทธิ์หลังการฝึกอบรม การเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมมีน้อย เป็นต้น</p><p class="p1">3) ปัญหาการประเมินผลการทำงาน เช่น แบบประเมินผลระบุข้อมูลและวัตถุประสงค์ไม่ครอบคลุมลักษณะงาน และการประเมินผลไม่มีความเป็นกลาง การลงโทษบุคลากรที่ทำผิดวินัยไม่มีความเด็ดขาด เป็นต้น</p><p class="p1">ปัญหาเหล่านี้สำรวจจากความคิดเห็นของบุคลากรในช่วงเวลาหนึ่ง ภายหลังการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานบุคคลในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารใหม่ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.2540<span class="Apple-converted-space">&nbsp; </span>และภายใต้ลักษณะการบริหารงานในสถาบันการศึกษาของพระสงฆ์ซึ่งมีลักษณะพิเศษแตกต่างจากสถาบันการศึกษาอื่นๆ เช่น ความไม่เท่าเทียมกันของสถานภาพบุคคลระหว่างพระสงฆ์และคฤหัสถ์ เป็นต้น</p><p class="p1">แนวทางในการแก้ปัญหาได้ทำการศึกษาความคิดเห็นจากบุคลากรทั้งสองฝ่าย สรุปสาระสำคัญได้ว่า ปัญหาการบริหารงานบุคคลส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกันระหว่างผู้บริหารและผู้ใต้บังคับบัญชา ดังนั้นควรผสานความเข้าใจร่วมกัน <span class="Apple-converted-space">&nbsp; </span>และในประเด็นปัญหาที่เห็นสอดคล้องกันควรประสานความร่วมมือ เพื่อนำข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ปัญหาการบริหารงานบุคคลมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การสนับสนุนการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างเต็มที่ และการประเมินความดีความชอบอย่างยุติธรรม ซึ่งในการวางแผนดำเนินการใดๆ ก็ตามที่ส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรต้องดำเนินการอย่างมีระบบ มีการตัดสินใจร่วมกัน จะทำให้การดำเนินการนั้นๆ ได้รับความร่วมมือและประสบผลสำเร็จด้วยดี.</p> ER -