วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC
<p>วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์ฉบับนี้จัดพิมพ์ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นสื่อกลางในการ เผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการ สำหรับนักวิชาการ นักวิจัย อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจ</p> <p>ขอบเขตผลงานที่รับตีพิมพ์ ได้แก่ ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ การบริหารธุรกิจ การบริหารการเงิน การบัญชี การจัดการสาธารณะ การจัดการการประกอบการ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ รัฐศาสตร์ นิติกฎหมาย หรือพุทธศาสนา และสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบทความทุกบทความได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองด้วยความพิถีพิถัน อีกทั้งได้ผ่านการตรวจประเมินคุณภาพจากคณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 ท่าน ที่มีความรู้ความสามารถ ในแต่ละสาขาอย่างถี่ถ้วน ทั้งนี้เพื่อให้บทความที่ตีพิมพ์นั้นมีคุณภาพอย่างแท้จริง วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์มีความตั้งใจจริงในการพัฒนาวารสารให้มีประสิทธิภาพยิ่ง ๆ ขึ้นไป และขอขอบคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่กรุณาตรวจประเมินบทความอย่าง ละเอียดรอบครอบ เพื่อให้ได้บทความที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง ขอขอบคุณผู้เขียนบทความทุกท่าน ที่ส่งผลงานอันมีคุณค่ามาร่วมตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์ซึ่งจะเป็น ประโยชน์มหาศาลในการศึกษาค้นคว้า ด้านบริหารธุรกิจสืบเนื่องต่อไป</p> <p>อัตราค่าธรรมเนียมตีพิมพ์: บทความละ 5,000 บาท </p> <p>(โดยกองบรรณาธิการวารสารฯ จะคืนเงิน 2,000 บาท ในกรณีบทความไม่ผ่านการประเมินคุณภาพเท่านั้น)</p>
Graduate School of Commerce Burapha University
en-US
วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์
1685-2354
<p>เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ</p>
-
แรงจูงใจ ความผูกพันต่อองค์กร อิทธิพลของแรงจูงใจและความผูกพันต่อองค์กร ต่อการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/252310
<p>การสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด 19 โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการให้บริการระหว่างร้านอาหารกับผู้บริโภค เป็นช่องทางที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ดังนั้นการวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์หลัก เพื่อศึกษาแรงจูงใจ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร ของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร และเพื่อศึกษาความผูกพันต่อองค์กร ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร ของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเก็บข้อมูลจากพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร โดยสุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน จากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปที่มีขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยแรงจูงใจ ด้านความก้าวหน้าในอาชีพ ด้านความสำเร็จในงาน ด้านความรับผิดชอบในงาน และด้านลักษณะงาน มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) ปัจจัยแรงจูงใจ ด้านความสำเร็จในงาน ความก้าวหน้าในอาชีพ และความรับผิดชอบในงาน มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ปัจจัยความผูกพันต่อองค์กร ด้านความปรารถนาที่จะรักษาสถานภาพความเป็นสมาชิกขององค์กร ความเต็มใจในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ขององค์กร และ ความเชื่อถือและยอมรับในเป้าหมายและค่านิยมขององค์กร มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ</p>
ชัยณรงค์ โภชนากรณ์
ถิตรัตน์ พิมพาภรณ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ชัยณรงค์ โภชนากรณ์, ถิตรัตน์ พิมพาภรณ์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2
1
12
-
การจัดเส้นทางการขนส่งยางรถยนต์ในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยใช้เซฟวิ่งอัลกอริทึม กรณีศึกษา บริษัท ABC จำกัด
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/255556
<p>การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดเส้นทางขนส่งยางรถยนต์ของบริษัท ABC จำกัด เพื่อเปรียบเทียบการจัดเส้นทางการขนส่งระหว่างวิธีเดิมของบริษัท ABC จำกัด กับวิธีเซฟวิ่งอัลกอริทึมและเพื่อจัดทำแนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนาการจัดเส้นทางการขนส่งยางรถยนต์ เพื่อทำให้เกิดการรวมเส้นทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด </p> <p> </p> <p> ผลการศึกษา พบว่า การจัดเส้นทางขนส่งยางรถยนต์ของบริษัท ABC จำกัด ใช้จุดกระจายสินค้า เพียงจุดเดียว โดยมีพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง คือ รถ 4 ล้อ สำหรับใช้ในการส่งไปยังลูกค้าภายในจังหวัดชลบุรี มีจำนวนรถทั้งสิ้น 5 คัน ซึ่งในแต่ละวัน จะเดินทางคันละ ประมาณ 2–4 เส้นทาง โดยจะบรรทุกได้ไม่เกินคันละ 3–4.5 ตัน รถ 6 ล้อ สำหรับใช้ในการขนส่งถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว โดยมีการกระจายสินค้า ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันเสาร์ โดยรถวิ่งมากที่สุดในวันจันทร์ วันอังคาร และวันพฤหัสบดี ใช้รถยนต์ในการกระจายสินค้าทั้งสิ้น 5 คัน ในแต่ละวัน สามารถกระจายสินค้าได้ 2–4 เส้นทาง โดยจะบรรทุกได้ไม่เกิน คันละ 4–5 ตัน รถ 10 ล้อ สำหรับใช้ในการขนส่งจังหวัดระยอง จันทบุรีและตราด โดยเน้นการส่งวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์จำนวน 2 คัน โดยแต่ละคันจะเดินทางถึงร้านค้า 3-5 เส้นทาง โดยจะบรรทุกได้ไม่เกิน 9–10 ตัน เส้นทางการกระจายสินค้า จากจังหวัดในภาคตะวันออก ระยะทางก่อนคำนวณ ค่า Saving s(i,j) ภาพรวม 12 เดือน คิดเป็น 307,915.20 กิโลเมตร เมื่อคำนวณ ได้ค่า Saving s(i,j) ได้ภาพรวม 12 เดือน 20,688 กิโลเมตร สามารถประหยัดเส้นทางในการเดินทางคิดเป็นร้อยละ 6.72</p>
นิธิมา เตี่ยไพบูลย์
พงศ์ภัค บานชื่น
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 นิธิมา เตี่ยไพบูลย์, พงศ์ภัค บานชื่น
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2
13
29
-
ส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ ของผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียว กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/255859
<p>การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียวในคอมมูนิตี้มอลล์ กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 2) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อตัดสินใจเช่าพื้นที่ขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการร้านค้าเช่ารายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียวในการเช่าพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียว จำนวน 261คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p> ผลจากการศึกษา พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการส่งผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียว กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p>
กรวิการ์ มงคล
พิมพรรณ สุจารินพงค์
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 กรวิการ์ มงคล, พิมพรรณ สุจารินพงค์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2
30
46
-
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนของกลุ่มผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต และสวัสดิการบริษัท (เครดิตบริษัท) ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/256209
<p> การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างด้านปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา และเพื่อศึกษาภาพลักษณ์องค์กรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มตัวอย่างคือประชากรในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 400 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบ t-test และ F-test หรือ One-way ANOVA และสถิติแบบ Multiple Linear Regression</p> <p> ผลการศึกษาพบว่าความแตกต่างด้านปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ตัดสินสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราที่แตกต่างกันมีการตัดสินใจเลือกใช้บริการไม่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการในโรงพยาบาลเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง และภาพลักษณ์องค์กรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยรวมยังต้องอาศัยชื่อเสียงเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า รวมไปถึงการสื่อสารในองค์กร ปัจจัยทางการตลาด การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ และปัจจัยด้านราคา ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ สามารถนำปัจจัยด้านภาพลักษณ์ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ในองค์กรและพันธมิตรได้</p>
ธีรพงษ์ นกศิริ
จิราพร ระโหฐาน
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ธีรพงษ์ นกศิริ, จิราพร ระโหฐาน
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2
47
58
-
การศึกษาปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลที่มีผลต่อความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน ย่านสีลมในเขตกรุงเทพมหานคร
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/256855
<p class="a"><span lang="TH" style="font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif;">งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาถึงระดับของปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ ระดับความนิยมสมบูรณ์แบบ ระดับความสามารถในการปฏิบัติงานของตนเอง ระดับการทำงานที่มากเกินไป และระดับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน 2) เพื่อสำรวจอิทธิพลของปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน การวิจัยเรื่องนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ผ่านการกระจายแบบสอบถามในพื้นที่ สีลม ในเขตกรุงเทพมหานคร ทำการเลือกตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก สถิติที่ใช้ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าความถี่ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ (</span><span style="font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif;">Multiple Regression Analysis) <span lang="TH">เพื่อใช้ทดสอบสมมติฐาน ผลการวิเคราะห์การถดถอยพบว่า ความสามารถในการปฏิบัติงานของตนเอง ความนิยมสมบูรณ์แบบ ส่งผลต่อความเหนื่อยหน่ายในการทำงานในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีนัยสำคัญ และ การทำงานที่มากเกินไป ส่งผลไปในทิศทางเดียวกันกับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ</span></span></p>
เกวลิน ศักดิกุล
วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 เกวลิน ศักดิกุล, วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2
59
72
-
การศึกษาหาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 กรณีศึกษา บริษัท ไดซิน จำกัด
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/257415
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยีที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 2)เพื่อศึกษาปัจจัยด้านองค์กรที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 3) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านบุคคลที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 กรณีศึกษา บริษัท ไดซิน จำกัด โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ พนักงานบริษัทไดซินจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 310 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าสถิติพื้นฐาน ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ ด้วยโปรแกรมทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95</p> <p>ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยี ได้แก่ การรับรู้ถึงประโยชน์ในการใช้งาน และการรับรู้ถึงความง่ายในการใช้งาน และปัจจัยด้านองค์การได้แก่ การสนับสนุนบุคลากร การพัฒนาบุคลากร และความมุ่งมั่นขององค์กร ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานอยู่ในระดับที่มาก เป็นผลเนื่องมาจาก เมื่อองค์กรมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุน และผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 เข้ามาใช้จริง ทำให้องค์การเห็นถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ ส่วนปัจจัยด้านบุคลากร ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานมีผลอยู่ในระดับปานกลาง เป็นผลมาจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพนักงานระดับปฏิบัติงาน ซึ่งมีลักษะการทำงานเป็นการทำงานตามขั้นตอนตามมาตรฐานที่ชัดเจน</p>
ประสงค์ เกรียงไกรกุล
วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ประสงค์ เกรียงไกรกุล, วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2
73
87
-
ปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยี RFID ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความตั้งใจนำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอิสเทริน์ซีบอร์ด จังหวัดระยอง
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/88-104
<p>การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยการการยอมรับเทคโนโลยี RFID ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความตั้งใจ นำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอิสเทริน์ซี บอร์ด จังหวัดระยอง โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขต นิคมอุตสาหกรรมอิสเทริน์ซีบอร์ด จังหวัดระยอง จำนวน 397 คน ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้มาจากแบบสอบถาม วิเคราะห์ ข้อมูลโดยนำเอาข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบข้อมูล (Data cleaning) ทดสอบความเชื่อมั่น (Reliability) ความเที่ยงตรง (Validity) แล้ววิเคราะห์อิทธิพลของตัวแปรด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) โดยใช้ แบบจำลองมาจากทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี หรือ Technology Acceptance Model (TAM) </p> <p> </p> <p> ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าแต่ละตัวแปรในแบบจำลองส่งผลอย่างมีนัยสำคัญกับตัวแปรปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยี RFID ต่อพฤติกรรมความตั้งใจนำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงาน ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของแบบจำลอง พบว่า ตัวแปรสังเกตได้มีความสอดคล้องกับตัวแปรแฝงเป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุพบว่า แบบจำลองสมมติฐานมีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ นอกจากนี้ความตั้งใจในการนำเทคโนโลยี RFID ไปใช้ในการ ปฏิบัติงาน สามารถอธิบายได้จากตัวแปรแฝงภายใน ได้แก่ การรับรู้ความสามารถตนเอง (Self-Efficacy) ความวิตกกังวลในการ ใช้งานคอมพิวเตอร์ (Computer Anxiety) การคล้อยตามสิ่งอ้างอิง (Subjective Norm) ประสบการณ์การใช้งาน (Previous Experience) พฤติกรรมความตั้งใจใช้เทคโนโลยี RFID (Behaviral Intention to Use) โดยความสัมพันธ์มีนัยทางสถิติที่ระดับ</p> <p>0.001 ดังนั้นการรับรู้ประโยชน์ของเทคโนโลยี RFID (Perceived Usefulness) การรับรู้ความง่ายของการใช้งานเทคโนโลยี RFID (Perceived Ease of Use) และทัศนคติการใช้เทคโนโลยี RFID (Attitude toward usding) มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความ ตง้ัใจนำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอิสเท ริน์ซีบอร์ด จังหวัดระยอง </p>
อารียา ศรีตาบุตร
พงศ์ภัค บานชื่น
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 อารียา ศรีตาบุตร, พงศ์ภัค บานชื่น
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2022-10-31
2022-10-31
17 2