วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC <p>วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์ฉบับนี้จัดพิมพ์ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นสื่อกลางในการ เผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการ สำหรับนักวิชาการ นักวิจัย อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจ</p> <p>ขอบเขตผลงานที่รับตีพิมพ์ ได้แก่ ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์&nbsp; การบริหารธุรกิจ&nbsp; การบริหารการเงิน&nbsp; การบัญชี&nbsp; การจัดการสาธารณะ การจัดการการประกอบการ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ&nbsp; รัฐศาสตร์ นิติกฎหมาย หรือพุทธศาสนา และสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบทความทุกบทความได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองด้วยความพิถีพิถัน อีกทั้งได้ผ่านการตรวจประเมินคุณภาพจากคณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 ท่าน ที่มีความรู้ความสามารถ ในแต่ละสาขาอย่างถี่ถ้วน ทั้งนี้เพื่อให้บทความที่ตีพิมพ์นั้นมีคุณภาพอย่างแท้จริง วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์มีความตั้งใจจริงในการพัฒนาวารสารให้มีประสิทธิภาพยิ่ง ๆ ขึ้นไป และขอขอบคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่กรุณาตรวจประเมินบทความอย่าง ละเอียดรอบครอบ เพื่อให้ได้บทความที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง ขอขอบคุณผู้เขียนบทความทุกท่าน ที่ส่งผลงานอันมีคุณค่ามาร่วมตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์ซึ่งจะเป็น ประโยชน์มหาศาลในการศึกษาค้นคว้า ด้านบริหารธุรกิจสืบเนื่องต่อไป</p> <p>อัตราค่าธรรมเนียมตีพิมพ์: บทความละ 5,000 บาท&nbsp;</p> <p>(โดยกองบรรณาธิการวารสารฯ จะคืนเงิน 2,000 บาท ในกรณีบทความไม่ผ่านการประเมินคุณภาพเท่านั้น)</p> Graduate School of Commerce Burapha University en-US วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์ 1685-2354 <p>เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ</p> แรงจูงใจ ความผูกพันต่อองค์กร อิทธิพลของแรงจูงใจและความผูกพันต่อองค์กร ต่อการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/252310 <p>การสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด 19 โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการให้บริการระหว่างร้านอาหารกับผู้บริโภค เป็นช่องทางที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ดังนั้นการวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์หลัก เพื่อศึกษาแรงจูงใจ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร ของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร และเพื่อศึกษาความผูกพันต่อองค์กร ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร ของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเก็บข้อมูลจากพนักงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร โดยสุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน จากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปที่มีขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า &nbsp;1) ปัจจัยแรงจูงใจ ด้านความก้าวหน้าในอาชีพ ด้านความสำเร็จในงาน ด้านความรับผิดชอบในงาน และด้านลักษณะงาน มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) ปัจจัยแรงจูงใจ ด้านความสำเร็จในงาน ความก้าวหน้าในอาชีพ และความรับผิดชอบในงาน มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ปัจจัยความผูกพันต่อองค์กร ด้านความปรารถนาที่จะรักษาสถานภาพความเป็นสมาชิกขององค์กร ความเต็มใจในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ขององค์กร และ ความเชื่อถือและยอมรับในเป้าหมายและค่านิยมขององค์กร มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ</p> ชัยณรงค์ โภชนากรณ์ ถิตรัตน์ พิมพาภรณ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ชัยณรงค์ โภชนากรณ์, ถิตรัตน์ พิมพาภรณ์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2 1 12 การจัดเส้นทางการขนส่งยางรถยนต์ในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยใช้เซฟวิ่งอัลกอริทึม กรณีศึกษา บริษัท ABC จำกัด https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/255556 <p>การวิจัยในครั้งนี้ &nbsp;มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดเส้นทางขนส่งยางรถยนต์ของบริษัท ABC จำกัด เพื่อเปรียบเทียบการจัดเส้นทางการขนส่งระหว่างวิธีเดิมของบริษัท ABC จำกัด กับวิธีเซฟวิ่งอัลกอริทึมและเพื่อจัดทำแนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนาการจัดเส้นทางการขนส่งยางรถยนต์ เพื่อทำให้เกิดการรวมเส้นทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด &nbsp;</p> <p>&nbsp;</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการศึกษา พบว่า การจัดเส้นทางขนส่งยางรถยนต์ของบริษัท ABC จำกัด ใช้จุดกระจายสินค้า เพียงจุดเดียว โดยมีพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง คือ รถ 4 ล้อ &nbsp;สำหรับใช้ในการส่งไปยังลูกค้าภายในจังหวัดชลบุรี มีจำนวนรถทั้งสิ้น 5 คัน ซึ่งในแต่ละวัน จะเดินทางคันละ ประมาณ 2–4 เส้นทาง โดยจะบรรทุกได้ไม่เกินคันละ 3–4.5 ตัน รถ 6 ล้อ สำหรับใช้ในการขนส่งถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว โดยมีการกระจายสินค้า ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันเสาร์ &nbsp;โดยรถวิ่งมากที่สุดในวันจันทร์ &nbsp;วันอังคาร และวันพฤหัสบดี &nbsp;ใช้รถยนต์ในการกระจายสินค้าทั้งสิ้น &nbsp;5 คัน ในแต่ละวัน สามารถกระจายสินค้าได้ 2–4 เส้นทาง โดยจะบรรทุกได้ไม่เกิน คันละ 4–5 ตัน รถ 10 ล้อ สำหรับใช้ในการขนส่งจังหวัดระยอง &nbsp;จันทบุรีและตราด โดยเน้นการส่งวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์จำนวน 2 คัน โดยแต่ละคันจะเดินทางถึงร้านค้า 3-5 เส้นทาง โดยจะบรรทุกได้ไม่เกิน 9–10 ตัน เส้นทางการกระจายสินค้า จากจังหวัดในภาคตะวันออก &nbsp;ระยะทางก่อนคำนวณ ค่า Saving s(i,j) ภาพรวม 12 เดือน คิดเป็น 307,915.20 กิโลเมตร เมื่อคำนวณ ได้ค่า Saving s(i,j) &nbsp;ได้ภาพรวม 12 เดือน 20,688 กิโลเมตร สามารถประหยัดเส้นทางในการเดินทางคิดเป็นร้อยละ 6.72</p> นิธิมา เตี่ยไพบูลย์ พงศ์ภัค บานชื่น ลิขสิทธิ์ (c) 2022 นิธิมา เตี่ยไพบูลย์, พงศ์ภัค บานชื่น https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2 13 29 ส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ ของผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียว กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/255859 <p>การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียวในคอมมูนิตี้มอลล์ กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 2) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อตัดสินใจเช่าพื้นที่ขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการร้านค้าเช่ารายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียวในการเช่าพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียว จำนวน 261คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลจากการศึกษา พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการส่งผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการรายย่อยประเภทกิจการเจ้าของคนเดียว กรณีศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p> กรวิการ์ มงคล พิมพรรณ สุจารินพงค์ ลิขสิทธิ์ (c) 2022 กรวิการ์ มงคล, พิมพรรณ สุจารินพงค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2 30 46 ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนของกลุ่มผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต และสวัสดิการบริษัท (เครดิตบริษัท) ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/256209 <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างด้านปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา และเพื่อศึกษาภาพลักษณ์องค์กรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มตัวอย่างคือประชากรในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 400 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบ t-test และ F-test หรือ One-way ANOVA และสถิติแบบ Multiple Linear Regression</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ผลการศึกษาพบว่าความแตกต่างด้านปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ตัดสินสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราที่แตกต่างกันมีการตัดสินใจเลือกใช้บริการไม่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการในโรงพยาบาลเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง และภาพลักษณ์องค์กรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยรวมยังต้องอาศัยชื่อเสียงเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า รวมไปถึงการสื่อสารในองค์กร ปัจจัยทางการตลาด การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ และปัจจัยด้านราคา ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ สามารถนำปัจจัยด้านภาพลักษณ์ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ในองค์กรและพันธมิตรได้</p> ธีรพงษ์ นกศิริ จิราพร ระโหฐาน ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ธีรพงษ์ นกศิริ, จิราพร ระโหฐาน https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2 47 58 การศึกษาปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลที่มีผลต่อความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน ย่านสีลมในเขตกรุงเทพมหานคร https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/256855 <p class="a"><span lang="TH" style="font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif;">งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาถึงระดับของปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ ระดับความนิยมสมบูรณ์แบบ ระดับความสามารถในการปฏิบัติงานของตนเอง ระดับการทำงานที่มากเกินไป และระดับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน 2) เพื่อสำรวจอิทธิพลของปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน การวิจัยเรื่องนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ผ่านการกระจายแบบสอบถามในพื้นที่ สีลม ในเขตกรุงเทพมหานคร ทำการเลือกตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก สถิติที่ใช้ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าความถี่ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ (</span><span style="font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif;">Multiple Regression Analysis) <span lang="TH">เพื่อใช้ทดสอบสมมติฐาน ผลการวิเคราะห์การถดถอยพบว่า ความสามารถในการปฏิบัติงานของตนเอง ความนิยมสมบูรณ์แบบ ส่งผลต่อความเหนื่อยหน่ายในการทำงานในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีนัยสำคัญ และ การทำงานที่มากเกินไป ส่งผลไปในทิศทางเดียวกันกับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ</span></span></p> เกวลิน ศักดิกุล วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย ลิขสิทธิ์ (c) 2022 เกวลิน ศักดิกุล, วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2 59 72 การศึกษาหาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 กรณีศึกษา บริษัท ไดซิน จำกัด https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/257415 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยีที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 2)เพื่อศึกษาปัจจัยด้านองค์กรที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 3) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านบุคคลที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 กรณีศึกษา บริษัท ไดซิน จำกัด โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ พนักงานบริษัทไดซินจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 310 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าสถิติพื้นฐาน ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ ด้วยโปรแกรมทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95</p> <p>ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยี ได้แก่ การรับรู้ถึงประโยชน์ในการใช้งาน และการรับรู้ถึงความง่ายในการใช้งาน และปัจจัยด้านองค์การได้แก่ การสนับสนุนบุคลากร การพัฒนาบุคลากร และความมุ่งมั่นขององค์กร ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานอยู่ในระดับที่มาก เป็นผลเนื่องมาจาก เมื่อองค์กรมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุน และผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 เข้ามาใช้จริง ทำให้องค์การเห็นถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ ส่วนปัจจัยด้านบุคลากร ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานมีผลอยู่ในระดับปานกลาง เป็นผลมาจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพนักงานระดับปฏิบัติงาน ซึ่งมีลักษะการทำงานเป็นการทำงานตามขั้นตอนตามมาตรฐานที่ชัดเจน</p> ประสงค์ เกรียงไกรกุล วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย ลิขสิทธิ์ (c) 2022 ประสงค์ เกรียงไกรกุล, วรัญพงศ์ บุญศิริธรรมชัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2 73 87 ปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยี RFID ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความตั้งใจนำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอิสเทริน์ซีบอร์ด จังหวัดระยอง https://so02.tci-thaijo.org/index.php/GSC/article/view/88-104 <p>การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยการการยอมรับเทคโนโลยี RFID ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความตั้งใจ นำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอิสเทริน์ซี บอร์ด จังหวัดระยอง โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขต นิคมอุตสาหกรรมอิสเทริน์ซีบอร์ด จังหวัดระยอง จำนวน 397 คน ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้มาจากแบบสอบถาม วิเคราะห์ ข้อมูลโดยนำเอาข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบข้อมูล (Data cleaning) ทดสอบความเชื่อมั่น (Reliability) ความเที่ยงตรง (Validity) แล้ววิเคราะห์อิทธิพลของตัวแปรด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) โดยใช้ แบบจำลองมาจากทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี หรือ Technology Acceptance Model (TAM)&nbsp;</p> <p>&nbsp;</p> <p>&nbsp; ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าแต่ละตัวแปรในแบบจำลองส่งผลอย่างมีนัยสำคัญกับตัวแปรปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยี RFID ต่อพฤติกรรมความตั้งใจนำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงาน ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของแบบจำลอง พบว่า ตัวแปรสังเกตได้มีความสอดคล้องกับตัวแปรแฝงเป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุพบว่า แบบจำลองสมมติฐานมีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ นอกจากนี้ความตั้งใจในการนำเทคโนโลยี RFID ไปใช้ในการ ปฏิบัติงาน สามารถอธิบายได้จากตัวแปรแฝงภายใน ได้แก่ การรับรู้ความสามารถตนเอง (Self-Efficacy) ความวิตกกังวลในการ ใช้งานคอมพิวเตอร์ (Computer Anxiety) การคล้อยตามสิ่งอ้างอิง (Subjective Norm) ประสบการณ์การใช้งาน (Previous Experience) พฤติกรรมความตั้งใจใช้เทคโนโลยี RFID&nbsp; (Behaviral Intention to Use) โดยความสัมพันธ์มีนัยทางสถิติที่ระดับ</p> <p>0.001 ดังนั้นการรับรู้ประโยชน์ของเทคโนโลยี RFID (Perceived Usefulness) การรับรู้ความง่ายของการใช้งานเทคโนโลยี RFID (Perceived Ease of Use) และทัศนคติการใช้เทคโนโลยี RFID (Attitude toward usding) มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความ ตง้ัใจนำไปใช้ปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัท ABC จำกัด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมอิสเท ริน์ซีบอร์ด จังหวัดระยอง&nbsp;</p> อารียา ศรีตาบุตร พงศ์ภัค บานชื่น ลิขสิทธิ์ (c) 2022 อารียา ศรีตาบุตร, พงศ์ภัค บานชื่น https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2022-10-31 2022-10-31 17 2