วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd <p><strong>วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร</strong></p> <p><strong>Online ISSN : </strong>2697-4541 <strong>Print ISSN : </strong>1906-8255</p> <p>ภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้มีการทำวิทยานิพนธ์ และดุษฎีนิพนธ์จำนวนมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพสูง และมีคุณค่าแก่การเผยแพร่สู่สาธารณชน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์</p> <ol> <li>เพื่อเป็นสื่อกลางแสดงความคิดเห็นเชิงวิชาการของคณาจารย์ นักวิชาการและนักศึกษาทั้งในและนอกสถาบัน</li> <li>เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของคณาจารย์นักวิชาการและนักศึกษา สาขาการบริหารการศึกษา</li> </ol> <p><strong>กำหนดตีพิมพ์ : </strong>วารสารตีพิมพ์ปีละ 2 ฉบับ</p> <p>ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม – มิถุนายน</p> <p>ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม</p> ภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร th-TH วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร 1906-8255 บทบรรณาธิการ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/271789 - - Copyright (c) 2024 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 สารบัญ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/271791 - - Copyright (c) 2024 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนบ้านท่ามะกา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/269163 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนบ้านท่ามะกา 2) แนวทางการพัฒนาการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนบ้านท่ามะกา ประชากร คือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนบ้านท่ามะกา จำนวน 52 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง&nbsp; &nbsp; &nbsp; สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา&nbsp;</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>1. การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนบ้านท่ามะกาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ดังนี้ หลักคุณธรรม/จริยธรรม หลักความเสมอภาค หลักประสิทธิภาพ หลักการกระจายอำนาจ หลักการตอบสนอง หลักประสิทธิผล หลักภาระรับผิดชอบ/สามารถตรวจสอบได้ หลักเปิดเผย/โปร่งใส หลักนิติธรรม และหลักการมีส่วนร่วม/การพยายามแสวงหาฉันทามติ ตามลำดับ</p> <p>2.แนวทางการพัฒนาการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนบ้านท่ามะกา เป็นพหุแนวทาง โดยกำหนดให้ข้อที่มีค่ามัชฌิมเลขคณิตน้อยที่สุดในแต่ละด้านมาเป็นประเด็นเพื่อหาแนวทางพัฒนา จำนวน 10 ด้าน มีแนวทางในการพัฒนาทั้งหมด 20 แนวทาง</p> พรจันทร์ แจ้งบุตร สงวน อินทร์รักษ์ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 1 16 แนวทางการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ของโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/269171 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม และ 2) แนวทางการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม ประชากร คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 91 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า</p> <ol> <li class="show">การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิต จากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ด้านการเรียนรู้และการพัฒนาวิชาชีพ ด้านชุมชนกัลยาณมิตร ด้านทีมร่วมแรงร่วมใจ ด้านโครงสร้างสนับสนุนชุมชน ด้านวิสัยทัศน์ร่วม และด้านภาวะผู้นำร่วม ตามลำดับ</li> <li class="show">แนวทางการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา เป็นพหุแนวทาง โดยกำหนดให้ข้อที่มีค่ามัชฌิมเลขคณิตต่ำที่สุดในแต่ละด้านมาเป็นประเด็นเพื่อหาแนวทางพัฒนา จำนวน 6 ด้าน มีแนวทางในการพัฒนาทั้งหมด 22 แนวทาง</li> </ol> ชนะการ เลี้ยงอำนวย ศักดิพันธ์ ตันวิมลรัตน์ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 17 30 แนวทางการพัฒนาการดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรียนประชาอุปถัมภ์ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/269998 <p>การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) การดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรียนประชาอุปถัมภ์ 2) แนวทางการพัฒนาการดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรียนประชาอุปถัมภ์ กลุ่มตัวอย่างคือ ข้าราชการครูโรงเรียนประชาอุปถัมภ์ จำนวน 48 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามความคิดเห็นและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรียนประชาอุปถัมภ์ โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2) แนวทางการพัฒนาการดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรียนประชาอุปถัมภ์ ควรดำเนินการ ดังนี้ 1) การอบรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพครู เพิ่มการนิเทศการเรียนรู้ อย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน พร้อมสะท้อนปัญหาผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์ของโรงเรียน 2) การจัดทำคู่มือเพื่อชี้แจ้งนโยบายและแนวทางการจัดการเรียนรู้ พร้อมรับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการวางแผนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้รายบุคคล 3) การสร้างคลังสื่อของโรงเรียนผ่านเว็บไซต์โรงเรียน และสนับสนุนครูผู้สอนสร้างช่องทางยูทูป รวมทั้งการแข่งขันประกวดสื่อและนวัตกรรม อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง</p> เมธาวัลย์ วิพัฒน์ครุฑ มัทนา วังถนอมศักดิ์ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 31 44 การบริหารงานงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ของโรงเรียนสมุทรมณีรัตน์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/270271 <p>การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทราบแนวทางการบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ ของโรงเรียนสมุทรมณีรัตน์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานบริหารงบประมาณ หัวหน้างานบริหารบุคคล หัวหน้างานบริหารวิชาการ หัวหน้างานบริหารทั่วไป เจ้าหน้าที่การเงิน และเจ้าหน้าที่พัสดุ ของโรงเรียนสมุทรมณีรัตน์ รวมทั้งสิ้น 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (structure interview) โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้บริหาร คณะครู และชุมชน ควรมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี &nbsp;2) ควรส่งเสริมความรู้ ทักษะ การจัดทำโครงการในแผนปฏิบัติการของครู และให้ผู้รับผิดชอบที่ได้รับการแต่งตั้งด้านงบประมาณ เข้าร่วมการอบรมกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ด้านงบประมาณในหน่วยงานต้นสังกัด 3) ควรวางแผนเพิ่มงบประมาณเพื่อนำมาดำเนินงานกิจกรรมในสถานศึกษา โดยการวางแผนการเพิ่มอัตราการเข้าเรียนของผู้เรียน และการระดมทรัพยากรจากแหล่งอื่นๆ มาพิจารณาร่วมกับการวางแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี</p> ณัฐญา จิ๋วเชื้อพันธุ์ ประเสริฐ อินทร์รักษ์ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 45 54 ความสุขของครูในศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพโรงเรียนท่ามะกา 3 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/270447 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) ความสุขของครูในศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพโรงเรียนท่ามะกา 3 2) แนวทางการพัฒนาความสุขของครูในศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพโรงเรียนท่ามะกา 3 กลุ่มตัวอย่างคือ โรงเรียนในศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพโรงเรียนท่ามะกา 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 2 จำนวน 11 โรง ผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วย สายบริหารจำนวน 11 คนและสายการสอนจำนวน 97 คน รวมผู้ให้ข้อมูลทั้งสิ้น 108 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิตส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>1. ความสุขของครูในศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพโรงเรียนท่ามะกา 3 อยู่ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน และอยู่ในระดับมาก 8 ด้าน เรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ดังนี้ การเป็นผู้ที่รักและดูแลครอบครัวได้การเป็นผู้มีคุณธรรมและความกตัญญูการเป็นผู้ที่รักและดูแลองค์กร การเป็นผู้ที่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเอง การเป็นผู้รักการเรียนรู้และเป็นมืออาชีพในงานของตนเอง การเป็นผู้มีการงานดีการเป็นผู้ที่มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น การเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีดูแลตนเองไม่ให้เป็นภาระของผู้อื่น และการเป็นผู้ใช้เงินเป็น</p> <p>2. แนวทางการพัฒนาความสุขของครูในศูนย์ส่งเสริมประสิทธิภาพโรงเรียนท่ามะกา 3 มีแนวทาง ดังนี้</p> <p>1) การเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีควรดูแลตนเองไม่ให้เป็นภาระของผู้อื่น ให้ครูออกกำลังกายทั้งในโรงเรียนและจากการแข่งขันกีฬากลุ่มโรงเรียน 2) การเป็นผู้ที่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเอง ให้ครูแบ่งเวลาสร้างบรรยากาศในที่ทำงานให้ผ่อนคลายเพื่อลดความตึงเครียด 3) การเป็นผู้ที่มีน้ำใจควรช่วยเหลือผู้อื่น สร้างทัศนคติที่ดีในการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนเพื่อสร้างจิตสาธารณะ 4) การเป็นผู้มีคุณธรรมและความกตัญญูควรให้โรงเรียนจัดพิธีกรรมทางศาสนา 5) การเป็นผู้ที่รักและดูแลครอบครัวได้ผู้บริหารควรลดภาระงานครูโดยการบรูณาการกิจกรรม จัดการงานให้สมดุลกับศักยภาพของครู 6) การเป็นผู้ที่รักและดูแลองค์กร ควรจัดกิจกรรมกลุ่มโรงเรียนเพื่อให้ครูได้สานสัมพันธ์ 7) การเป็นผู้รักการเรียนรู้และเป็นมืออาชีพในงานของตนเอง ควรให้ครูตระหนักถึงประโยชน์และความสำคัญในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ 8) การเป็นผู้ใช้เงินเป็น ควรสนับสนุนให้ครูแบ่งเงินเพื่อเก็บออม และให้ครูเก็บออมเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดกาญจนบุรีสวัสดิการกลุ่ม SP3 9) การเป็นผู้มีการงานดีควรสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งและให้ความรู้เกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเงินเดือน</p> ชุตินันท์ บัวรอด สงวน อินทร์รักษ์ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 55 66 ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/270509 <p style="font-weight: 400;">การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา&nbsp; 2) แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ประชากร คือ บุคลากรของโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 1 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 4 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 8 คน และครู จำนวน 63 คน รวมทั้งสิ้น 76 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำดิจิทัลตามแนวคิดของดาวรุวรรณ ถวิลการ และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมภาวะผู้นำดิจิทัลสถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p style="font-weight: 400;">ผลการวิจัยพบว่า</p> <p style="font-weight: 400;">1. ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ดังนี้ การสร้างวัฒนธรรมเชิงดิจิทัล การสื่อสารเชิงดิจิทัล การสร้างวิถีการเรียนรู้เชิงดิจิทัล และการพัฒนาสู่ความเป็นมืออาชีพ ตามลำดับ</p> <p style="font-weight: 400;">2. แนวทางการส่งเสริมภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา มีแนวทางในการส่งเสริมทั้งหมด 20 แนวทาง</p> ธรรมนูญ คนตรง สายสุดา เตียเจริญ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 67 82 การประเมินโครงการ : โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดบ่อน้ำจืด https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/270770 <p>การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบผลการประเมินโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดบ่อน้ำจืด ทั้งสิ้น 4 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านบริบท (Context evaluation) 2) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input evaluation) 3) ด้านกระบวนการ (Process evaluation) 4) ด้านผลผลิต (Product evaluation) ประชากร คือ บุคลากรโรงเรียนวัดบ่อน้ำจืด ประกอบด้วย ผู้บริหาร 1 คน ครู 14 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน และนักเรียน 76 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 98 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>การประเมินโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดบ่อน้ำจืด โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 1 ด้าน คือ ด้านบริบท และอยู่ในระดับมาก จำนวน 3 ด้าน โดยเรียงค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านผลผลิต ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านกระบวนการ</p> อาชิรญาดา โชคประกอบบุญ สงวน อินทร์รักษ์ Copyright (c) 2024 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-30 2024-06-30 15 1 83 98