วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM <p>วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย (Journal of Early Childhood Education Management) เป็นวารสารที่เผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา การส่งเสริม และการดำเนินงานทางการศึกษาปฐมวัยและทางการศึกษาของประเทศไทยและนานาชาติ</p> th-TH <p>ลิขสิทธิ์ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ห้ามผู้ใดนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นอกจากนี้ เนื้อหาที่ปรากฎในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์</p> [email protected] (รองศาสตราจารย์ ดร.จีระพันธุ์ พูลพัฒน์) [email protected] (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรชุลี ลังกา) Thu, 28 Dec 2023 00:00:00 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้อุปกรณ์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266662 <p>ทักษะการคิดเชิงบริหาร เป็นกระบวนทางสติปัญญาที่ประกอบด้วย ความจำเพื่อใช้งาน การยั้งคิดไตร่ตรอง การยืดหยุ่นความคิด การจดจ่อใส่ใจ การควบคุมอารมณ์ การติดตามประเมินตนเอง การริเริ่มและลงมือทำ การวางแผนดำเนินการ และการมุ่งเป้าหมาย ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ควรปลูกฝังให้เด็กตั้งแต่ปฐมวัย<br>ในการพัฒนาและเรียนรู้อย่างเหมาะสมคือกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้อุปกรณ์ มีความสำคัญสำหรับเด็ก จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการเคลื่อนไหวได้ดี&nbsp; เป็นคุณค่าสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างให้มนุษย์ได้เติบโตอย่างมีวุฒิภาวะสมบูรณ์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงบริหาร กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะมีทั้งกิจกรรมเดี่ยว กิจกรรมกลุ่ม โดยเด็กจะมีอิสระในการคิดที่จะเคลื่อนไหวร่างกายของตนเองได้อย่างหลากหลาย แต่ยังคงอยู่ในข้อกำหนดและสัญญาณที่ตกลงกับเด็ก สร้างจินตนาการและสามารถสานต่อแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เพราะประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้จากกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้อุปกรณ์ ช่วยส่งเสริมประสบการณ์ในการใช้ชีวิตให้กับเด็กเพื่อพัฒนาให้เติบโตไปอย่างมีคุณภาพเหมาะกับโลกในอนาคต</p> ศิริมาศ โกศัลย์พิพัฒน์, รัชฎาพร ยาละ Copyright (c) 2023 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266662 Thu, 16 Nov 2023 00:00:00 +0700 การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยในโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ โดยใช้นวัตกรรมการสอนแบบมอนเตสซอรี่ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266664 <p>โรงเรียนสาธิตละอออุทิศได้นำนวัตกรรมการสอนแบบมอนเตสซอรี่มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนการสอนเด็กปฐมวัย จากการวิเคราะห์การใช้นวัตกรรม พบว่า นวัตกรรมการสอนแบบมอนเตสซอรี่ มีกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1) ทักษะความคิดสร้างสรรค์ 2) ทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา 3) ทักษะการสื่อสาร 4) ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ภายใต้ปรัชญา หลักสูตร และสื่ออุปกรณ์ตามแนวคิดมอนเตสซอรี่</p> จุฬินฑิพา นพคุณ Copyright (c) 2023 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266664 Thu, 16 Nov 2023 00:00:00 +0700 การจัดสภาพแวดล้อมทางสื่อสิ่งพิมพ์ภาษาที่พรั่งพร้อมในห้องเรียนอนุบาล https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266565 <p>การวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์การจัดสภาพแวดล้อมทางสื่อสิ่งพิมพ์ภาษาที่พรั่งพร้อมในห้องเรียนอนุบาล โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มกรุงเทพเหนือ ใน 2 ด้าน ได้แก่ การจัดพื้นที่และครุภัณฑ์ และ การออกแบบสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่สมบูรณ์ กลุ่มตัวอย่างคือ ครูอนุบาลที่กำลังสอนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มกรุงเทพเหนือ ภาคการศึกษา 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 125 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ครูอนุบาลโดยภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก <br>(M=3.82, S.D.=0.84) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ทั้งสองด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก (3.74 ≤ M ≤ 3.90) คือ (1) ด้านการจัดพื้นที่และครุภัณฑ์ (M=3.90, S.D.=0.86) ประกอบด้วยด้านย่อย ได้แก่ การจัดพื้นที่ (M=4.03, S.D.=0.67) การจัดครุภัณฑ์ (M =3.76, S.D. =0.98) และ (2) ด้านการออกแบบสิ่งแวดล้อม<br>ทางกายภาพ (M=3.74, S.D.=0.81) ประกอบด้วยด้านย่อย ได้แก่ การจัดสื่อสิ่งพิมพ์ (M=3.82, S.D.=0.76) การจัดวัสดุอุปกรณ์ (M=3.65, S.D.=0.86) ตามลำดับ</p> ณัฏฐา เที่ยงธรรม, วรวรรณ เหมชะญาติ Copyright (c) 2023 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266565 Fri, 10 Nov 2023 00:00:00 +0700 บทบาทของผู้ปกครองเด็กวัยอนุบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266566 <p>การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของผู้ปกครองเด็กวัยอนุบาลในการส่งเสริม การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ใน3 ด้าน ได้แก่ การสนับสนุนการเรียนรู้เชิงบวก การสร้างปฏิสัมพันธ์ และการจัดสภาพแวดล้อม ประชากร คือ ผู้ปกครองคนไทยที่มีบุตรกำลังเรียนระดับชั้นอนุบาลในโครงการ Intensive English programs โรงเรียนอนุบาลเอกชน ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2566 จำนวน 128 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า โดยภาพรวมมีบทบาทของผู้ปกครองอยู่ในระดับปานกลาง (M =3.42, S.D. =1.18) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการสนับสนุนการเรียนรู้เชิงบวกมีบทบาทอยู่ในระดับมาก (M = 3.98, S.D. =0.91) ประกอบด้วยด้านย่อยคือ การให้การเสริมแรง (M = 4.21, S.D. =0.89) และการเป็นแบบอย่างในชีวิตประจำวัน (M =3.82, S.D. =0.93) ส่วนอีกสองด้านมีบทบาทอยู่ในระดับปานกลาง (M =2.80 ≤ M ≤ 3.48) คือ (1) ด้านการจัดสภาพแวดล้อม (M =3.48, S.D. =1.22 ประกอบด้วยด้านย่อย คือ การจัดบรรยากาศที่ปลอดภัยต่อการใช้ภาษาอังกฤษ (M =3.84, S.D. =1.15) และการจัดสิ่งแวดล้อมที่สัมพันธ์กับการใช้ภาษาอังกฤษ (M =3.05, S.D. =1.33) และ (2) ด้านการสร้างปฏิสัมพันธ์ (M =2.80, S.D. =1.41) ประกอบด้วยด้านย่อยคือ การทำกิจกรรมภาษาอังกฤษร่วมกับสมาชิกในครอบครัว (M =3.11, S.D. =1.18) และการสร้างโอกาสในการเรียนภาษาอังกฤษร่วมกับผู้อื่น (M =2.07, S.D. =1.35)</p> นภัสศรัณ วารี , วรวรรณ เหมชะญาติ Copyright (c) 2023 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266566 Fri, 10 Nov 2023 00:00:00 +0700 การพัฒนาชุดรายวิชาออนไลน์แบบเปิดขนาดใหญ่สำหรับครูและผู้ดูแลเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266658 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ยกระดับทักษะและเพิ่มทักษะใหม่ให้กับครูและผู้ดูแลของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่รับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี ด้วยการสร้างรายวิชาออนไลน์แบบเปิดขนาดใหญ่ (Massive Open Online Course, MOOC) 2. ประเมินประสิทธิผลของรายวิชาที่สร้างขึ้นในการพัฒนา<br>ครูและผู้ดูแลของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 3. ประเมินประสิทธิภาพของการสอนการอบรมออนไลน์แบบเปิดขนาดใหญ่ (MOOC) กลุ่มเป้าหมายหลักที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ ครูและผู้ดูแลของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และนิสิตนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาดำเนินการใน 3 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ด้านการเรียนรู้ ด้านปฏิกิริยา และด้านทัศนคติ ส่วนการประเมินประสิทธิภาพของการสอนการอบรมออนไลน์แบบเปิดขนาดใหญ่นั้นดำเนินการโดยการเก็บข้อมูลการเข้าเรียนของผู้เรียนบนระบบ MOOC เพื่อวิเคราะห์การเข้าชมคลิปวิดีโอของผู้เรียน เนื่องจากคลิปวิดีโอเป็นสื่อที่สำคัญที่สุดของรายวิชาแบบ MOOC ผลการวิจัยพบว่า การประเมินประสิทธิผลของชุดรายวิชาที่พัฒนาด้านการเรียนรู้และด้านปฏิกิริยาได้ผลในเชิงบวกอย่างเด่นชัด ส่วนด้านทัศนตินั้นไม่มีความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังเข้าเรียน และในด้านการประเมินประสิทธิภาพของระบบ MOOC พบว่าการสร้างเนื้อหาการเรียนรู้ในรูปแบบคลิปวิดีโอนั้น ควรทำเป็นคลิปสั้นๆ คลิปละไม่เกิน 5 นาที ชุดรายวิชานี้สามารถนำไปปรับปรุงและขยายต่อเพื่อพัฒนาเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตร (non-degree program) เนื่องจากสัญญาอนุญาตการใช้ชุดรายวิชานี้ เป็นครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ CC: BY-NC-SA</p> วิลาศ วูวงศ์, เทพลักษ์ ศิริธนะวุฒิชัย , ชุติพร อนุตริยะ Copyright (c) 2023 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266658 Thu, 16 Nov 2023 00:00:00 +0700 กระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดทำกลยุทธ์ของแผนปฏิบัติการคณะครุศาสตร์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266660 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากลยุทธ์ของแผนปฏิบัติการคณะครุศาสตร์เพื่อสร้างความเข้มแข็งตามอัตอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ด้วยการวิจัยนี้เชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) และวิธีการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) โดยมีขั้นตอนการดำเนินการวิจัย แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามปลายเปิดเกี่ยวกับข้อมูลในการกำหนด จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค (SWOT) กับกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 13 คน ได้แก่ บุคลการสายวิชาการ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระยะที่ 2 วิพากษ์ข้อมูลและกลยุทธ์แผนปฏิบัติการคณะครุศาสตร์เพื่อสร้างความเข้มแข็งตามอัตอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย กับกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 8 คน ได้แก่ ผู้บริหารคณะ ประธานหลักสูตร ตัวแทนคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า กลยุทธ์ของแผนปฏิบัติการคณะครุศาสตร์เพื่อสร้างความเข้มแข็งตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย 6 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 ขยายโอกาสเพื่อการพัฒนาที่ยังยืน โดยปรับวิธีคิด กระบวนทัศน์ ของบุคลากร เพื่อมองหาโอกาสจากสิ่งที่ท้าทาย แสดงความเป็นตัวตนให้เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะชน กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มผลสัมฤทธิ์ของคุณภาพการศึกษา โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรทุกมิติทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยการจัดการตามแนวทางสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education: CWIE) กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มความเชื่อมั่นทางวิชาการ โดยส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานวิจัย และการอ้างอิงจากบทความวิจัย และกลยุทธ์ที่ 5 ผลักดันจุดเน้นอัตลักษณ์มหาวิทยาลัยสู่สาธารณชน โครงการสร้างความร่วมมือด้านวิชาการกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศ</p> อำภาพร นามเสนา, อัษฎา พลอยโสภณ , วีณัฐ สกุลหอม Copyright (c) 2023 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so02.tci-thaijo.org/index.php/ECEM/article/view/266660 Thu, 16 Nov 2023 00:00:00 +0700